iPhone App Tube : iPhone iPad Apps, Games, Jailbreak, Unlock, Mobile news

Tweet

 

สิ้นปีแล้ว ทั้งปีนี้ มีแอพพลิเคชั่น และเกมน่าสนใจมากมาย เรามาดูกันว่า สุดยอด แอพพลิเคชั่น และเกม ที่ทางเว็บ Mashable จัดอันดับไว้ให้เป็น ที่สุดของแอพ ประจำปี 2555 นี้มีแอพอะไรกันบ้าง

1. Pocket

แอพพลิเคชั่นสำหรับ จัดเก็บบทความน่าสนใจ สารพัดเรื่องอย่างเช่น เนื้อหาน่าอ่าน, วีดีโอคลิปเด็ด, สูตรอาหารน่าทาน ที่อยู่บนเว็บเหล่านี้ เอาไว้อ่านภายหลัง เมื่อเรา สนใจบทความไหน ก็ทำการจัดเก็บไว้ใน Pocket โดยสามารถเก็บไว้ทั้งใน คอมพิวเตอร์, แทบเล็ต หรือไอโฟน ทำให้เราสามารถเข้าถึงบทความที่เราสนใจ ได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่ง บริการ Pocket นี้ มีแอพรองรับถึง 300 กว่าแอพด้วยกัน และที่สำคัญฟรี

2. 1Passowrd (V.4)

แทนที่จะต้องมานั่งจำรหัสผ่านเข้าเว็บต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งเบอร์บัตรเครดิตที่ใช้ซื้อ ของออนไลน์บ่อย ๆ แค่เรามี 1Password แอพเดียวรับรองอยู่ เพราะแอพนี้จะช่วย เก็บรหัสผ่านต่างๆ รวมทั้งข้อมูลสำคัญต่างๆ ให้เราอย่างเบอร์บัตรสำคัญ ๆ, บัตรเครดิต, บัญชีธนาคาร ข้อมูลที่เราต้องใช้ แต่เป็นความลับเฉพาะ เก็บเอาไว้ ในแอพนี้แสนสะดวก เพราะค้นหาง่าย และปลอดภัย เพราะมีป้องกันไว้หลายระดับ ไม่ต้องกลัวข้อมูลรั่วไปได้ง่าย ๆ ปลอดภัยกว่าจดไว้ใน Notes app หลายร้อยเท่า  จะให้ 1Password ประมวลรหัสผ่าน ที่ยากในการเดาก็ย่อมได้ แอพราคา $7.99 รองรับทั้ง iPhone และ iPad ซื้อทีเดียวคุ้ม

3. Letterpress

เกมกระดานที่เป็นลูกครึ่งระหว่าง Boggle และ Othello เป็นเกมเล่นสนุกระหว่าง เพื่อนฝูง เป็นเกมฟรีเล่นสนุก

4. Goognight Moon

แอพนี้สำหรับใครที่กำลังหาแอพดีๆ สำหรับเด็กเล็ก เป็นแอพนิทานสำหรับเด็ก แบบ interactive เรื่อง Goodnight Moon ในแอพ มีวัตถุที่ตอบรับเราได้ กว่า 200 อย่าง มีเสียงบรรยายพร้อมเพลงกล่อมเพราะ

5. Google Maps

แผนที่นี้สิ ที่ผู้ใช้ ไอโฟนต้องการ คงไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับแอพนี้

6. YouTube

อีกแอพที่หายไปจาก iOS 6 ซึ่งกลับเป็นผลดีเพราะว่าแอพที่ทางกูเกิลทำออกมา ทำได้ดีกว่าเมื่อตอนรวมอยู่ใน iOS

Tweet

เรามาส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ด้วย Wallpaper สวย ๆ "Happy New Year 2013" กันดีกว่า โหลดกันไว้ได้เลย เอาไปประดับหน้าจอ Lock Screen หรือ Home Screen ตัวไฟล์เป็นภาพละเอียดสำหรับหน้าจอ iPhone และ iPad

Free Download Happy New Year 2013 Wallpaper

สำหรับ iPhone

สำหรับ iPad





สำหรับ iPhone

สำหรับ iPad

Tweet

เกมแนว Puzzle ชื่อดังของทางดิสนีย์ "Where 's My Water" แจกฟรีแบบจำกัดเวลา ดังนั้นใครยังไม่มี ก็รีบโหลดฟรีกันได้เลย แต่เฉพาะผู้ใช้ USA Apple ID นะ ส่วนวิธีการขอ โค้ดฟรี ก็มีดังนี้



1. เข้าไปที่หน้า https://www.disneyfamilydeals.com/everywhere-deals/disney-mobile-where-s-my-water-download-the-full-ios-version-of-the-game-for-free-XuhXwb




2. กดที่ "Get it now"
3. ทำการเชื่อมต่อด้วย Facebook login
4. ใส่ ข้อมูล เพศ จำนวนบุตร (ใส่มั่ว ๆ ได้เลย) และใส่รหัสไปรษณีย์ (ZIP)
5. กด Agree & Signup
6. เว็บจะโชว์รหัสให้เรา ไป Redeem ฟรีได้เลย โดย code จะอยู่ที่ ด้านบนซ้าย ตรง Voucher#: xxxxxxx นำโค้ดนี้ไป Redeem ได้ที่ App Store app ได้เลย

เกม Where 's My Water เป็นเกมฝึกไหวพริบสติปัญญา เราต้องคิดคำนวน หาทางส่งน้ำ ไปยังท่อน้ำเพื่อให้ เจ้าจระเข้พระเอกของเราได้อาบน้ำ เกมมี มากกว่า 140 ด่าน เกมสนุก เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

Tweet

 

นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดเผยว่า ขณะนี้ดีแทคกำลังอยู่ระหว่างการเตรียมวางโครงสร้างบริษัทดีแทค เน็ทเวิร์ค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้าประมูลรับใบอนุญาตประกอบกิจการมือถือ 3 จีบนคลื่นความถี่ 2.1 GHz โดยกำหนดว่าขั้นตอนทั้งหมดน่าจะเสร็จสิ้นภายในเดือนแรกของปี 2556 เพื่อที่จะดำเนินการทุกอย่างให้ทันเปิดให้บริการ 3 จีตามเป้าหมายในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า

“การเริ่มต้นติดตั้งโครงข่ายของเราจะเริ่มขึ้นไม่นานจากนี้ เนื่องจากเราเพิ่งได้รับใบอนุญาต โดยปกติเราจะทำงานร่วมกับผู้ผลิตอุปกรณ์ (ซัพพลายเออร์) ร่วมกันติดตั้งโครงข่าย พนักงานของเรามีความรับผิดชอบร่วมกับซัพพลายเออร์เช่นกัน เราจึงไม่มีนโยบายที่จะปรับลดพนักงานเป็นแน่” โดยปัจจุบันพนักงานในส่วนของฝ่ายช่าง เทคนิค วิศวกร มีอยู่ทั้งสิ้นประมาณเกือบ 1,000 คน ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การติดตั้งโครงข่าย 3 จีของดีแทคเป็นไปตามเป้าหมาย ดีแทคจึงไม่มีนโยบายใดๆที่จะลดจำนวนพนักงานในสายงานดังกล่าวลง ส่วนการโอนย้ายหรือว่าจ้างพนักงานในส่วนของบริษัทดีแทค เน็ทเวิร์คนั้น ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนต้องรอการวางโครงสร้างบริษัทก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชายระบุตนเป็นพนักงานช่างฝ่ายวิศวกรของดีแทค โดยมีหลักฐานเป็นอีเมล์และเบอร์โทรศัพท์ระบุตัวตนชัดเจน แจ้งข่าวว่าดีแทคกำลังพยายามที่จะปรับลดพนักงานในส่วนของช่างและทีมวิศวกรลง เพื่อรองรับการติดตั้งโครงข่าย 3 จีบนคลื่น 2.1 GHz ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้บริษัทนอก (outsource) เข้ามาดำเนินการ ทั้งนี้ ข้อร้องเรียนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความขัดแย้งภายในระหว่างทีมช่าง-วิศวกรโครงข่ายกับผู้บริหารของดีแทคอย่างชัดเจน และน่าจะเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้ช่วงปีที่ผ่านมา เครือข่ายของดีแทคมีปัญหามาตลอด จากกรณีเน็ตเวิร์กล่มครั้งใหญ่หลายครั้ง โดยไร้สาเหตุอันควร.

ที่มา : Thairath

Tweet

สำหรับคนที่เจลเบรคเครื่องแล้ว คงเป็นคนชอบลองติดตั้ง ตัวเสริมต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ หรือลูกเล่น ให้กับ ไอโฟน กันอยู่แล้ว มาถึงสิ้นปีแล้ว เรามาดูกันว่า Jailbreak app / Jailbreak Tweak / Cydia Tweak เด็ด เด่น ที่น่าสนใจประจำปี 2555 นี้ มีอะไรบ้าง? อาจจะมีบางตัวที่เราไม่รู้จัก ไม่เคยใช้ แต่น่าสนใจ ทาง iDownloadblog เขาก็ได้รวบรวม "Top Jailbreak Tweaks of 2012" ไว้ให้ดังนี้

 

• Blutrol - ช่วยให้เกมที่ไม่รองรับ iCade Arcade เล่นได้
• Aero - ทำให้การเปลี่ยนแอพ ไม่เหมือนเดิม
• AnimateAll - เพิ่มชีวิตชีวา ให้กับพื้นหลัง ที่หน้า  Lock screen, Home screen,  Notification center  ด้วยพื้นหลังแบบเคลื่อนไหว
• Ayecon - สุดยอด jailbreak theme
• CameraTweak - ตัวเสริมปรับแต่งกล้อง
• Dash - สลับการใช้งานแอพแบบเต็มหน้าจอ
• Dashboard X – ทำให้ iOS มี widget
• Deck - เพิ่ม Hotbar ด้านขวา ให้ใช้งานได้สะดวก
• Emblem - Notification แบบเดียวกับที่ใช้ใน OS X
• FoldMusic - เรียกฟังเพลงได้โดยตรงจาก Folder ในหน้า homscreen
• WeeRoll - เพิ่ม animation ใน Notification Center
• Hands-Free Control - ใช้งาน Siri แบบไม่ต้องใช้มือ
• Merge - รวม iMessage เข้าไปใน Contact
• Motion - เพิ่มลูกเล่นให้กับหน้า Homescreen
• Neurotech Siri - Siri Theme
• NowNow - ให้ Siri ไปใช้ Google Voice Search
• Octopus Keyboard - คียบอร์ดสไตล์ BlackBerry 10 (เดาศัพท์ล่วงหน้า)
• PaperLock - เปลี่ยนวิธีการเลื่อนเพื่อปลดล็อค
• Quasar - เปิดแอพได้พร้อมๆ กันในหน้าจอเดียวกัน
• Stride - ปลดล็อคไอโฟนด้วย การวาดภาพ 8 bit
• SwipeBack - ย้อนกลับง่ายด้วยการเลื่อนหน้าจอไปซ้าย ขวา
• SwipeSelection - ทำให้การแก้ไขข้อความเป็นเรื่องง่ายขึ้น
• Unfold - อีกวิธีปลดล็อคไอโฟน
• AssistantLove - ใช้ Siri เล่นเพลงจาก Spotify
• Auxo - task switcher รูปแบบใหม่ ทีแสดงผลมาแบบเป็น card ที่ iDB ให้เป็น สุดยอดของสุดยอด jailbreak tweak ประจำปี 2012 นี้

ทั้งนี้ ลองดูสาธิตการใช้งาน jailbreak tweak ต่างๆ ได้ผ่านวีดีโอแนะนำ ได้ท้ายบทความนี้ แต่ละตัว สุดยอดทั้งนั้นจริง ๆ

ที่มา : iDownloadBlog 

Tweet

หลังจากที่รายงานไปช่วงเช้า เกี่ยวกับ เครื่องมือเจลเบรคปลอม อย่าง RedPois0n ไปแล้ว เรามาติดตามข่าวเกี่ยวกับการเจลเบรค iOS 6 ว่าเป็นอย่างไรบ้างกันดีกว่า โดย Seabastian จาก iDownoadBlog ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แฮกเกอร์ Cyril หรือ @pod2g ที่เรารู้จักกันดี บทสัมภาษณ์มีการพูดถึงหลายเรื่อง แต่จะขอสรุปเกี่ยวกับส่วนเฉพาะของการเจลเบรค

ทาง @pod2g ได้ให้ความเห็นว่า เราจะได้เห็นเครื่องมือ jailbreak iOS 6 กันภายในอีก 6 เดือน ข้างหน้านี้ และเหล่านักพัฒนา jailbreak app ก็คงมีการพัฒนาแอพที่น่าสนใจ ออกมาให้ได้ใช้กันด้วย เขายังได้ให้ความเห็นว่า Apple ควรจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทั่วไป ติดตั้ง unsigned application ได้ด้วย เหมือนกับใน Mac OS X นอกจากนี้เขายังบอกด้วยว่า วิธีการเจลเบรคที่ @chpwn ได้เผยแพร่ให้เห็น ว่าเจลเบรคได้สำเร็จในช่วงแรก ที่เรียกกันว่า "FailBreak" นั้นวิธีการนี้ ไม่สามารถนำปล่อยให้ใช้กันได้ เพราะว่าจำเป็นต้องใช้ Developer's Certificate

สำหรับการพัฒนาเครื่องเจลเบรค iOS 6 ที่ก่อนหน้านี้ ทาง @pod2g ได้ออกมาบอกว่า ไม่มีเวลาให้กับการหาช่องโหว่ในการเจลเบรค เนื่องจากเขากำลังง่วนกับการเปิดบริษัทของตัวเอง และพัฒนาซอฟต์แวร์อยู่ แต่ล่าสุด เขาเปลี่ยนใจแล้ว แต่ก็ยังมีเวลาไม่มากนัก ในการทุ่มเท ให้ กับการหาช่องโหว่เพื่อทำการเจลเบรค iOS 6 จากที่ทราบกันดีว่า แฮกเกอร์ส่วนใหญ่มีงาน ประจำ และใช้เวลาว่างในการแฮก iOS 6

สุดท้ายทาง @pod2g ยังทิ้งไว้ไว้สองเรื่องดังนี้

สำหรับคนที่ติดตามข่าวเจลเบรคจาก @pod2g เขาอยากขอบคุณที่อดทนรอ และ การสนับสนุนจากทุกคน ซึ่งเขาคงไม่มีเวลาให้กับการพัฒนาเจลเบรคมากนักในเร็ววันนี้ แต่เมื่อเขาว่างเมื่อไหรจะรีบกลับมาสานต่อทันที

ส่วนเรื่องที่สอง ทาง @pod2g ส่งสารถึง Apple โดยเขาผิดหวังเกี่ยวกับ iPhone 5 ที่ไม่มีอะไรแตกต่างจาก iPhone 4S นักโดยเฉพาะใน ประเทศฝรั่งเศส ที่เขาอาศัยอยู่ ยังไมมี 4G LTE (เหมือนบ้านเรา) เขายังไม่เห็น นวัตกรรมที่หาไม่ได้ในไอโฟนรุ่นก่อน  อยากให้ Apple ยอมเสี่ยงบ้าง ด้วยการเพิ่มอะไรใหม่ๆ  มาบ้าง

ยังมีเรื่องราวหลายอย่างเกี่ยวกับแฮกเกอร์คนนี้ สามารถอ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆ  ได้ที่ http://www.idownloadblog.com/

Tweet

อย่างที่ทราบกันดีว่า การพัฒนาเครื่องมือเจลเบรคสำหรับ iOS แล้วนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องใช้เวลาค้นหาช่องหา ช่องโหว่ในการแฮกมากทีเดียว สำหรับ iOS 6 ก็เช่นกัน ตอนนี้ยัง ไม่มีช่องทางสำหรับการเจลเบรค สำหรับพัฒนาให้เป็นเครื่องมือออกมาสู่สาธารณะได้  ก่อนหน้านี้โดยทาง Stefan Esser แฮกเกอร์ในวงการเจลเบรค ก็ออกมาทวิตว่า iOS 6.1 ยากในการเจลเบรค กว่า iOS 6.0

เมื่อเครื่องมือเจลเบรคไม่มี และทุกเฝ้าเรา ก็มักจะมีคนเล่นสนุกในการ ปล่อย ข่าวว่าพัฒนาเครื่องมือเจลเบรคสำเร็จแล้ว ซึ่งไม่นานมานี้กับ DremJailbreak ที่มีคนสนใจกันมากเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็เป็นแต่เรื่องที่กุขึ้น และล่าสุดกับ RedPois0n ซึ่งแน่นอน ก็เป็นโปรแกรมเจลเบรค ปลอมอีกเช่นกัน อย่าได้ไป หลงเชื่อโหลดมาใช้ เพราะว่าอาจจะมีไวรัสแอบแฝงอยู่ในโปรแกรมก็เป็นได้

เครื่องมือเจลเบรคนั้นคงต้องรอ แฮกเกอร์ที่อยู่ในวงการเจลเบรค มานานแล้ว และมีผลงานให้เห็นกันมาบ้างอย่าง @MuscleNerd จาก iPhone Dev Team หรือ @pod2g จาก Chronic Dev Team และฉายเดี่ยวอย่าง Stefan Esser  น่าจะปลอดภัยที่สุด

Tweet

Google Maps app for iOS นั้น นอกจากจะมีฟีเจอร์ และดีไซน์ใหม่ที่ดีกว่าเดิมแล้ว นั้น ทาง กูเกิลยังแอบเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ไว้ด้วย แต่ปิดการทำงานเอาไว้ ซึ่งนั่นก็คือ โหมด แผนที่ Topography หรือแผนที่ภูมิศาสตร์นั่นเอง

สำหรับเครื่องที่เจลเบรคแล้ว เราสามารถใช้ jailbreak tweak ชื่อ Topography for Google Maps ในการช่วยเปิดโหมดนี้ได้ สามารถติดตั้งได้ผ่าน Cydia จาก Petrich repo http://rpetri.ch/repo/

 

Tweet

รายงานข่าวล่าสุด Apple ยังคงประสบกับปัญหาเดิมๆ อันเนื่องเป็นผลจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นั่นก็คือ การผลิตสินค้าไม่ทันต่อความต้องการ ทำให้เกิดภาวะขาดตลาด ดังเช่น iPhone 5 ที่แม้จะระดมพนักงานผลิตมากกว่า 150,000 คนมาช่วยกันทำทั้งโรงงานก็ยังไม่สามารถผลิตได้ทันต่อความต้องการ เรื่อยมาจนถึงผลิตภัณฑ์สุดฮอตอย่าง iPad mini ทีก็กำลังประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน

แหล่งข่าวที่เฝ้าดูการผลิตสินค้า Apple จากโรงงานต่างๆ ในไต้หวันอย่าง Digitimes ระบุว่า โรงงานที่รับผิดชอบการผลิต iPad mini ให้กับ Apple ที่ต้องเตรียมชิ้นส่วนในการผลิต iPad mini ให้ได้ประมาณ 10 - 12 ล้านเครื่อง เพื่อจำหน่ายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2012 แต่ผลปรากฎว่า โรงงานผู้ผลิตเหล่านี้สามารถจัดเตรียม และผลิต iPad mini ได้เพียง 8 ล้านเครื่องเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นตามลำดับ กล่าวคือ จำนวนเครื่องที่ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบลดน้อยลงไปมาก โดยปัญหานี้ทาง Apple คาดว่า จะสามารถเร่งกำลังการผลิต iPad mini เพื่อป้อนให้กับตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2013 ได้ไม่น้อยกว่า 13 ล้านเครื่อง ซึ่งนั่นหมายความว่า เมื่อสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้าจะมี iPad mini ทะลักในตลาด และผู้ใช้มากกว่า 21 ล้านเครื่องแล้ว

ในขณะที่มีกระแสข่าวการผลิต iPad mini ไม่ทันแล้ว กลับมีข่าวที่อาจจะทำให้ผู้ใช้ iPad 4 ต้องเซ็งไม่แพ้ new iPad หรือ iPad 3 ก็คือ การทีมีข่าวออกมาว่า iPad 5 ที่บางเบากว่า iPad 3/4 อย่างเห็นได้ชัด กำลังจะวางตลาดในเดือนมีนาคมปีหน้าอีกด้วย แต่จากการที Apple กำลังเร่งระดมกำลังการผลิตทั้ง iPhone 5 และ iPad mini อยู่ในขณะนี้ การเปิดตัว iPad 5 ในเดือนมีนาคมปีหน้า จึงอาจจะเป็นไปได้ยากพอสมควร ถึงแม้สงครามแท็บเล็ตกำลังร้อนแรงหนักขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม

ที่มา : Arip

Tweet

หลังการวางจำหน่าย iPhone 5 ไปแล้ว ข่าวลือสำหรับเครื่องรุ่นต่อไป ก็มีออกมาเรื่อย ๆ ซึ่งก็เรียกกันเล่นๆ ว่า iPhone 5S ซึ่งก็มีนักออกแบบอิสระใช้ชื่อว่า Fransnk3d ได้จัดทำวีดีโอจำลอง iPhone 5S ออกมาแบบขั้นเทพ เพราะสุดล้ำ เหนือคำบรรยาย ด้วยการที่ตัวเครื่องแยกส่วนออกมาเป็น คียบอร์ดเลเซอร์ และ เป็นโปรเจคเตอร์ในตัวได้ด้วย เรียกว่าไม่ธรรมดาจริง ๆ

Tweet

Instagram เป็นแอพพลิเคชั่นยอดนิยมอันดับต้นๆ  เพราะผู้ใช้ทั่วโลก ถ่ายรูป และแบ่งปันรูปกันตลอดเวลา โดยเฉพาะเมืองไทยก็นิดยมเล่น instagram กัน มากทีเดียว วันนี้ทาง Instagram ได้ประกาศผล 10 สถานที่ยอดนิยม ที่ ผู้ใช้ instagram ถ่ายไว้มากที่สุด ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจ ประเทศไทยนั้น ติดอันดับ 1 และ 2 นั่นก็คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ห้างสรรพสินค้าสยาพารากอน  ส่วนอันดับอื่นๆ  นั้นเป้นสถานที่ในสหรัฐอเมริกา ทั้งนั้น มีหลุดมาคือ หอไอเฟล ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศสหลุดเข้ามาด้วย

 

• Suvarnabhumi Airport (BKK) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ in Bangkok, Thailand
• Siam Paragon (สยามพารากอน) shopping mall in Bangkok, Thailand
• Disneyland Park in Anaheim, California
• Times Square in New York City
• AT&T Park in San Francisco
• Los Angeles International Airport (LAX)
• Dodger Stadium in Los Angeles
• Eiffel Tower in Paris
• Staples Center in Los Angeles
• Santa Monica Pier in Los Angeles

ที่มา : instagram blog

Tweet

iPhone 5 ที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นสุดยอด Gadget แห่งปี 2012 โดยนิตยสาร Times กลับมีเรื่องให้ผู้ใช้ iPhone 5 ต้องตื่นเต้นอีกแล้ว เมื่อมีข่าวว่า iPhone 5 โค้งงอ ที่ตัวเครื่อง

 

จากภาพที่เห็น จะพบว่าตัวเครื่อง iPhone 5 มีลักษณ์โค้งงอผิดรูป อย่างเห็นได้ชัด หลังจากภาพนี้เผยแพร่กันบนอินเทอร์เน็ต ต่างก็มีการวิเคราะห์กันต่างๆ นานา โดยเห็นผล ที่น่าเป็นไปได้คือ iPhone 5 โดนกดทับอย่างรุนแรง จนทำให้เครื่องที่ใช้วัสดุอะลูมีเนียม และตัวเครื่องบางเกิดอาการโค้งงอ โดยหลายคนต่างมองว่า อาจจะมีสาเหตุจาก การที่เจ้าของ iPhone 5 ผู้นี้ ใส่ iPhone 5 ไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังและเกิดลืม นั่งทับไปโดยไม่ตั้งใจ ผลที่ได้ ก็คือ iPhone 5 หักโค้งอย่างที่เห็นในรูปนันเอง

 

ที่มา : Arip, Phone Arena

Tweet

 

หลังจาก Apple ออก iOS 6.0 มาก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมี การปล่อยเครื่องมือ เจลเบรค ตัวสมบูรณ์สำหรับทุกเครื่องทุกรุ่น ซึ่งตอนนี้ทาง Apple ก็เตรียม ออก iOS 6.1 สำหรับการแก้บักต่างๆ  นานา โดยออกมาถึง iOS 6.1 beta 4 แล้ว

Hacker ชื่อดังในวงการเจลเบรค Stefan Esser มีผลงาน ปล่อยเครื่องมือเจลเบรค iOS 4.3 และ iOS 5.1 และติดตาม การเจลเบรค iOS มาโดยตลอด ได้ออกมาให้ความเห็นผ่าน ทวิตเตอร์ว่า ทางแอปเปิล น่าจะเสริมทัพการป้องกัน ให้แน่หนาเข้าไปอีกใน iOS 6.1 ซึ่งทำให้ยากแก่การ พัฒนาเครื่องมือ Jailbreak สำหรับแจกจ่ายฟรีสู่สาธารณะ และทิ้งท้ายว่า ตอนนี้ งไม่สามารถ แหกคุก iOS 6 ได้สำเร็จ ดังนั้นใครเป็นเจ้าของ iPhone 5, iPad 4, iPad Mini วมทั้งเครื่องรุ่นอื่นๆ คงต้องรอเพลงรอกันต่อไปอีกสักระยะ

ที่มา : iClarified

Tweet

เป็นที่รับทราบกันดีว่าในตลาดอุปกรณ์พกพาที่ใช้หน้าจอแบบ AMOLED นั้นมี Samsung เป็นเจ้าตลาดใหญ่เบอร์หนึ่งสินค้าหลายๆ ตัวของผู้ผลิตรายอื่นๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ล้วนต้องพึ่งพาการผลิตของ Samsung เป็นหลัก ซึ่งก็เป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่าสำหรับผู้ผลิตจากเกาหลี

แต่ล่าสุด AUO Optronics บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนหน้าจอจากไต้หวัน กำลังจะขอเข้ามาชิงเค้กส่วนแบ่งตลาดไปจาก Samsung เพื่อลดการผูกขาดตลาด โดยกำลังอยู่ในช่วงที่เดินหน้าสายการผลิตหน้าจอแบบ AMOLED ในเบื้องต้นเป็นหน้าจอที่มีความใหญ่แบบ 4.3 นิ้ว

และจะพร้อมเริ่มต้นส่งมอบสินค้าให้กับ HTC ที่มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้ว ภายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2013 เป็นต้นไป

ที่มา : MxPhone

Tweet

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคสมัยนี้ smartphone ของเรามีความสามารถหลากหลายที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างไม่ หยุดยั้ง โดยเฉพาะการใช้งานท่องอินเตอร์เนตด้วยมือถือนั้นสามารถใช้งานได้มี ประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่หลังมานี้

การแข่งขันล่าสุดทั้ง 3 ระบบปฏิบัติการไม่ว่าจะเป็น Apple iOS / Google Android แม้แต่ Windows Phone 8 ต่างก็มีประสิทธิภาพในการแสดงผลหน้าเว็บที่ยอดเยี่ยมด้วย ซึ่งแข่งขันออกมาได้อย่างสูสี ทั้งการใช้งานจริงและผลการทดสอบต่างๆ เช่น SunSpider / BrowserMark แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเราจะมีแชมป์ใหม่เกิดขึ้นสำหรับการแข่งขันในหมวดนี้ เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งได้แก่ BlackBerry OS 10 ที่แม้จะยังเป็นเครื่องต้นแบบและกำลังอยู่ในช่วงของการรอเปิดตัวอย่างเป็น ทางการในช่วงต้นปี 2013 นั่นเอง ต้องลองชมวีดีโอด้านล่างนี้ดูเพื่อประจักษ์กันด้วยสายตาตนเองที่ทางเว็บไซต์ GadgetMaster ได้ทำการทดสอบให้เราได้รับชมกัน

 

 

ที่มา  : MxPhone

Tweet

ตั้งแต่ Amazon เปิดตัวแท็บเล็ตราคาถูกซีรีส์ Kindle Fire และขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ก็มีข่าวลือเรื่อยมาว่า Amazon มีแผนจะทำสมาร์ทโฟนอยู่ด้วย

ล่าสุดมีข่าวลือมาอีกระลอกจาก Taiwan Economic News ที่ระบุว่า Amazon ได้ทำสัญญากับ Foxconn ให้เป็นผู้ผลิตสมาร์ทโฟนให้ โดยจากยอดที่ Amazon สั่งไปราว 5 ล้านเครื่อง คาดว่าจะทำราคาอยู่ระหว่าง 100-200 เหรียญ

ส่วนช่วงเวลาเปิดตัวคาดว่าเป็นไตรมาสสองของปี 2013 และขายในช่วงไตรมาสสามพร้อมๆ กับ Kindle Fire รุ่นใหม่นั่นเอง

ที่มา : Blognone

Tweet

ข่าวฮาประจำวันนี้ครับ เมื่อตอนงานเปิดตัว Windows Phone 8 ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางไมโครซอฟท์ก็ได้เปิดตัวพรีเซนเตอร์คนสวย ดาราคุณแม่ยังสาว Jessica Alba บนเวทีด้วย นอกจากนี้เธอยังแสดงนำในโฆษณาทีวี Windows Phone เพื่อนำเสนอฟีเจอร์ที่ช่วยจัดการงานหลายอย่างในชีวิตประจำ

และก็เหมือนหลายครั้งที่พอเราเห็นบรรดาเซเลบริตี้พูดว่าใช้หรือออกมาอวยสินค้าที่ไม่ใช่ Apple ก็อดคิดไม่ได้ว่า “จริงเหรอ?” ซึ่งก็ไม่ผิดคาด เพราะปาปารัสซีจากนิตยสาร People แอบจับภาพ Alba ขณะกำลังใช้โทรศัพท์มือถือสำหรับชีวิตประจำวันจริงๆ ของเธอได้ครับ … iPhone นั่นเอง!

ที่มา : MacThai

Tweet

ข่าวลือของไอโฟนรุ่นต่อไป “the next iPhone” ว่าที่ iPhone 6 หรือ 5S จะใช้แฟรชคู่ (dual-LED flash) และต่างจากแฟลชบนมือถือที่เคยเห็นกันมาเพราะแฟลชทั้ง 2 ตัวใช้ LED คนละสีกัน ??

ข่าวลือเกี่ยวกับการใช้งานกล้องบน iPhone รุ่นหน้า ดูเหมือนจะแปลกไปกว่าที่เคยได้ยินกันมาซักนิดเพราะ คราวนี้เป็นข่าวเกี่ยวกับแฟลชบน iPhone ที่จะมาพร้อมกันถึง 2 ตัว คือ LED แฟลชปกติ 1 ตัวกับแฟลชที่ออกสีฟ้าเล็กน้อยอีก 1 ตัว น่าจะมาจากแนวคิดการปรับปรุงการใช้งานกล้องถ่ายรูปให้ดียิ่งขึ้น การปรับ white balance สำหรับการถ่ายภาพบน iPhone ให้สวยขึ้น ในทางปฏิบัติการใช้แฟลชพร้อมกันถึง 2 ตัว จะทำให้ภาพมีความสว่างมากขึ้น รายละเอียดภาพดูมีมิติ ได้ภาพที่ความสมดุลมากกว่าเดิม หลายๆคนใช้สารพัดแอพแต่งภาพบนมือถือเพราะอยากภาพที่แสงสวยถูกใจ หากมีการปรับคุณภาพกล้องและแฟลชแล้ว แอพแต่งภาพอาจจะไม่จำเป็นอีกต่อไป

ที่มา : GSM Arena ผ่านทาง pdamobiz

Tweet

สำนักข่าวจากประเทศไต้หวัน Central News Agency รายงานว่า Foxconn บริษัทที่รับช่วงต่อผลิตสินค้าให้กับแอปเปิลกำลังทดสอบดีไซน์โทรทัศน์ต่าง ๆ ให้กับแอปเปิล โดยขนาดของจอภาพโทรทัศน์ที่ถูกผลิตออกมาจากการทดสอบอยู่ที่ 46 ถึง 55 นิ้ว

แหล่งข่าวเดียวกันนี้อ้างว่าแอปเปิลอาจจะสนใจที่จะนำโทรทัศน์ดังกล่าวมา โชว์ในงาน CES ในเดือนหน้าก็เป็นได้ แม้ว่าแอปเปิลไม่ค่อยให้ความสนใจกับงานแสดงสินค้าประเภทนี้ และเลือกที่จะเปิดตัวสินค้าด้วยตัวเองเสียมากกว่า นอกจากนี้แหล่งข่าวยังเชื่อว่าแอปเปิลจะไม่วางจำหน่ายโทรทัศน์เป็นของตัวเอง ภายในปี 2013 นี้อย่างแน่นอน

ที่มา : MacRumors ผ่านทาง Blognone

Tweet

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กูเกิลได้ออกแถลงการณ์ผ่านบล็อกหลักถึงหัวข้อ การทำความสะอาดฤดูหนาว หรือ Winter Cleaning (คล้ายๆ กับแผนการบำรุงรักษาประจำปี) โดยมีใจความสำคัญระบุว่า จะมีการยุติการพัฒนาแอพพลิเคชั่น Google Sync และ Google Calendar Sync ซึ่งทั้งสองเป็นแอพพลิเคชั่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อการซิงค์โครไนซ์ชื่อบัญชี Gmail ของกูเกิลกับโปรแกรม Outlook ของไมโครซอฟท์ และทำให้สามารถใช้งานได้บนหลายอุปกรณ์หรือซอฟท์แวร์อื่นๆ ผ่านทางโปรโตคอล Microsoft Exchange ActiveSync (EAS)

ซึ่ง Microsoft Exchange ActiveSync (EAS) ที่ว่าก็มีหลักการทำงานคล้ายกับ IMAP หรือ POP ที่คุ้นหูกันดี มันถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงอีเมล์ได้แม้จะเปิดจากอุปกรณ์ อื่นๆ แถมยังอนุญาตให้ผู้ใช้และอุปกรณ์สามารถซิงค์รายชื่อ บันทึก และปฏิทินได้ ภายใต้โปรโตคอลตัวเดียวกัน และนอกจากการออกมาแถลงถึงการยุติการสนับสุน EAS บนกูเกิลแล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้ผู้ใช้บริการใหม่ไม่สามารถตั้งค่าการใช้งานได้ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2556 เป็นต้นไปแล้ว อย่างไรก็ดี กูเกิลยังได้เพิ่มเงื่อนไขจำกัดสิทธิการเข้าถึง EAS โดยเปิดให้บริการเฉพาะผู้ที่ใช้ Google Apps แบบเสียเงินเท่านั้น นั่นก็หมายความว่า ผู้ใช้จำเป็นต้องอัพเกรดสมาชิกเป็นระดับพรีเมี่ยม รวมถึงลูกค้าองค์กร การศึกษา หน่วงานราชการ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ยักษ์ใหญ่ไอทีตัดสินยุติการสนับสนุน ก็เพื่อหันมาเปิดโอกาสให้โปรโตคอลใหม่ ที่มีชื่อว่า CardDAV และ CalDAV ซึ่งโปรโตคอลเหล่านี้ล้วนมีความเป็นอิสระกว่าโปรโตคอลที้ได้รับความนิยม (IMAP, POP) พร้อมกันนี้กูเกิลยังได้แนะนำให้ผู้ใช้ Gmail ที่ต้องการรักษารายชื่อและปฏิทินเอาไว้ จะต้องหันไปใช้โซลูชั่นอื่นๆ ร่วมกันแทน สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้มากที่สุด มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ใช้ Gmail ที่มีการใช้ EAS ซิงค์ข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือผู้ที่มีการใช้ซอฟท์แวร์ที่มีการใช้งานร่วมกับ EAS

ที่มา : Tech Spot ผ่านทาง Pantip IT News

Tweet

Nielsen บริษัทวิจัยระดับโลกที่ก่อกำเนิดตั้งแต่ปี 1920 ได้ประกาศความเป็นพันธมิตรร่วมกับหนึ่งในเว็บโซเชียลแถวหน้าของโลก Twitter เพื่อจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาระบบชี้วัดแบบใหม่หรือ เครื่องมือวัดเรตติ้ง สำหรับโครงการที่มีชื่อว่า Nielsen Twitter TV Rating สำหรับผู้ชมชาวสหรัฐฯ ซึ่งมีแผนที่จะเริ่มดำเนินโครงการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีหน้านี้

โดยปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ทั้งสองตัดสินใจจับมือเป็นพันธมิตรกันเป็นเพราะ ปัจจุบันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าการใช้ทวิตเตอร์และเครื่องมือสื่อสารอื่นๆ ระหว่างการชมรายการทีวีได้กลายมาเป็นพฤติกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะขณะรับชมการถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ อย่างผลการประกวด หรือการเลือกตั้ง นอกเหนือจากการเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์ก นอกจากนี้ จำนวนผู้ชมรายการทีวียังเพิ่มมากขึ้นจากการใช้แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตด้วย Nielsen ระบุว่าระบบการวัดคะแนนแบบใหม่จะมาพร้อมกับระบบการวัดคะแนนที่มีอยู่เดิมและผู้โฆษณาก็จะใช้มันเพื่อเข้าถึงผู้ชมได้ดีกว่าเดิม

ที่มา : The Verge ผ่านทาง Pantip IT NEWS

Tweet

 

มีรายงานข่าวว่า ทวิตเตอร์ (Twitter) จะเปิดให้ดาวน์โหลด"ทวีต"เก่าๆ ได้ โดยมีผู้ใช้บางรายพบตัวเลือกการใช้งานดังกล่าว ล่าสุดทาง Twitter ได้ออกมาประกาศยืนยันผ่านบล็อกของทางบริษัทเมื่อวันพุธที่ผ่านมาแล้วว่าจะเริ่มเปิดให้ดาวน์โหลดทวีตทั้งหมดจริง

ข้อความในบล็อกของ Twitter ระบุว่า "เรากำลังแนะนำความสามารถในการดาวน์โหลดทวีตเก่าๆ ของคุณ โดยคุณจะสามารถดาวน์โหลดทวีตทั้งหมด (รวมถึง รีทวีต RT) ตั้งแต่เริ่มต้นใช้งานบริการ" นอกจากนี้ข้อความในบล็อกของ Twitter ยังระบุอีกด้วยว่า "เมื่อผู้ใช้ดาวน์โหลดทวีตเก่าๆ ไปแล้ว ผู้ใช้จะสามารถเลือกดูทวีตเป็นแบบรายเดือน หรือค้นหาทวีตด้วยคำ หรือวลี ตลอดจนแฮชแท็ก (hashtag) หรือ @username ได้ แถมยังสามารถเชื่อมโยงทวีตเก่าๆ ของคุณกับทวีตใหม่ที่เพิ่งจะมีการโพสต์เข้ามาได้อีกด้วย"

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทาง Twitter ได้แนะนำฟีเจอร์ดังกล่าวกับกลุ่มผู้ใช้ที่ถูกเลือกเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา แต่การประกาศครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า ทาง Twitter จะเปิดให้ฟีเจอร์นี้ใช้งานได้กับผู้ใช้บริการทุกคน สำหรับการเข้าถึงฟีเจอร์ดังกล่าวผู้ใช้จะต้องคลิกเลือกเมนู Settings จากหน้าเว็บบริการ จากนั้นเลื่อนลงมาทีด้านล่างสุดของหน้า Account ผู้ใช้จะพบกับปุ่ม "Request Your Archive" (อยู่ใต้เซคชั่นเลือกประเทศ Country) ดังรูปข้างบน หลังจากคลิกปุ่มไปแล้ว คุณจะได้รับอีเมลพร้อมคำสั่งในการเข้าถึงไฟล์ดาวน์โหลดสำหรับทวีตเก่าๆ ของคุณ อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบฟีเจอร์ดังกล่าวในตอนนี้ เพราะทางบริษัทจะเริ่มทะยอยเปิดให้ใช้กัน

 

ที่มา :ARIP

Tweet

 

กระทรวง ICT เปิดเผยโครงการขยายจุดให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง หรือ WiFi เพิ่มขึ้นในปี 2556 ที่กำลังจะมาถึงนี้ เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับโครงการแท็บเล็ตสำหรับเด็กที่กำลังจะมีการจัดซื้อรอบสอง

การติดตั้งจุดให้บริการ Free WiFi เป็นไปตามนโยบาย "Smart  Thailand" ของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และตอบสนองต่อโครงการแท็บเล็ตสำหรับเด็ก ป.1ที่ได้มีการแจกจ่ายไปตามโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศแล้ว ทั้งนี้ในปี 2555 กระทรวง ICT มีการเปิดจุดบริการ Free WiFi ไปแล้วกว่า 200,000 จุด โดยแบ่งเป็นความร่วมมือกับบริษัท TOT 30,000 จุด พร้อมกับการเพิ่มอีก 20,000 จุดก่อนสิ้นปีนี้, บริษัท กสท. 30,000 จุด, AIS  50,000 จุด และ TRUE 50,000 จุด นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก กสทช.อีก 150,000 จุด ขณะที่ DTAC ได้ตอบรับการเข้าร่วมครั้งนี้ในบางพื้นที่ เช่น โรงเรียน และโรงพยาบาล

สำหรับปี 2556 ที่กำลังจะมาถึง ทางกระทรวง ICT เตรียมงบประมาณเพื่อโครงการขยายพิ้นที่การให้บริการ Free WiFi รองรับกับโครงการแท็บเล็ตสำหรับเด็กที่จะมีการจัดซื้อให้กับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 กว่า 1.6 ล้านเครื่อง ในปีหน้านี้

ที่มา : Arip

Tweet

Mr.Caseman by Rajah Phoenix จัดโปรโมชั่นพิเศษลดราคา  USG Tempered Glass for iPhone 5 จากราคา 1,390 บาท เหลือเพียง 990 บาท วันนี้ถึง 30 ธันวาคมนี้  มีจำหน่ายที่ iStudio และ .Life By Copperwired

Tweet

หลังการประมูล 3G คลื่น 2100 MHz และได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 2100 MHz เป็นที่เรียบร้อย สำหรับ dtac ในปีหน้า 2013 นี้ ทาง CEO ของ dtac คุณจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ พูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าของ dtac เอาไว้ว่า “ในปี 2012 ที่กำลังจะผ่านไป dtac สามารถบรรลุภารกิจในการ เปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่ายใหม่ทั้งหมดสำเร็จ เป็นจำนวนประมาณ 10,000 กว่าสถานีฐาน ฉะนั้นแล้วคุณภาพของ 2G คลื่น 1800 และ 3G คลื่น 850 MHz ก็สมบูรณ์ขึ้น และมีพื้นที่บริการมากขึ้น การเปลี่ยนเครือข่ายทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นการลงทุนที่มีมูลค่ามากที่สุดในเอเชีย”

“สำหรับ 3G คลื่น 2100 MHz ของ dtac จะเริ่มทำการติดตั้งอุปกรณ์ในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังจากนี้ โดยสามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้ 400 สถานีฐาน/สัปดาห์ เมื่อรวมเวลาปรับแต่งสัญญาณด้วยแล้ว ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้า น่าจะพร้อมให้บริการในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑลได้ และภายในปี 2013 จะพื้นที่ 3G คลื่น 2100 MHz ครบ 50% (6,000-6,500 สถานีฐาน) ของประเทศ และ 80% ของประเทศใน 3 ปีจากนี้”

dtac ยังคงย้ำความแข็งแกร่งของการเป็นเบอร์ 2 ของตลาด ด้วยส่วนแบ่ง 21% ของตลาดรวม ในปี 2013 ค่าบริการของ dtac จะคุ้มค่าขึ้นตามที่ กสทช. บังคับเรื่องกติกาด้านราคา 3G ที่ต้องถูกลงจากเดิม 15% ในปีแรก และในปี 2013 dtac จะมีบริการด้านการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่ dtac จะบริหารจัดการด้วยตัวเองมานำเสนอแน่นอน

Tweet

ย่อยข่าวความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับปัญหาคดีความฟ้องร้องระหว่าง Apple และ Samsung ที่กำลังเข้าสู่ช่วงปลายของกระบวนขั้นตอนที่มหากาพย์ภาคแรกกำลังจะจบลง โดยศาลใน California ได้มีคำสั่งยืนตามคำตัดสินเดิมที่ Samsung ต้องจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายกับ Apple เป็นวงเงินมูลค่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในส่วนของคำร้องเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นภายหลังการตัดสินนั้น

ซึ่งทาง Apple ที่ขอให้แบนสินค้าของ Samsung จากตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างถาวร และทาง Samsung ที่มีคำร้องขอให้มีการพิจารณาคดีใหม่เนื่องจากเชื่อว่าหัวหน้าคณะลูกขุน ที่เคยมีคดีความกับ Samsung มาก่อนนั้นมีความไม่ชอบธรรม โดยศาลได้ปฏิเสธคำร้องของทั้งคู่ โดยให้เหตุผลว่าคำร้องนั้นไม่มีน้ำหนักและหลักฐานเพียงพอ นอกจากข้อกล่าวหาลอยๆ ที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาข้างต้นได้ แต่คดีความที่ศาลแห่งนี้ยังไม่จบลงง่ายๆ หลังทาง Samsung ได้มีการยื่นคำร้องขอลดค่าปรับ ซึ่งตรงข้ามกับทาง Apple ที่ได้ยื่นคำร้องขอเพิ่มค่าเสียหาย

ในส่วนของความคืบหน้าในคดีความฟ้องร้องในอีกซีกโลกหนึ่งในฝั่งยุโรปตะวันตก ทาง Samsung ได้จัดการถอนคดีความฟ้องร้องที่ได้เคยยื่นขอให้มีการสั่งแบนสินค้าของ Apple ออกจากศาลในเยอรมัน อิตาลี อังกฤษ และเนเธอร์แลนด์ โดยทาง Samsung กล่าวหาว่าทาง Apple ได้ทำการละเมิดสิทธิบัตรพื้นฐานอันเกี่ยวกับเทคโนโลยีไร้สายในถือครองของตน สำหรับเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินดังกล่าว ทาง Samsung ให้ความเห็นว่าต้องการแข่งขันในตลาดผู้บริโภคมากกว่าที่จะไปจบการแข่งขันกัน ในศาล และถือเป็นการให้เกียรติปกป้องสิทธิในการเลือกซื้อของผู้บริโภคไปด้วยอีกทาง

แม้ว่าจะถอนคำร้องก็ขอแบน แต่อย่างไรก็ดีทาง Samsung ยังคงการฟ้องร้องที่เรียกค่าเสียหายจากการละเมิดสิทธิบัตรของ Apple อยู่เช่นเดิม แต่ทาง Apple ก็โต้แย้งไปก่อนหน้านี้ว่า สิทธิบัตรพื้นฐานดังกล่าวนั้นไม่ได้ตั้งค่าอย่างเป็นธรรมภายใต้สนธิสัญญา FRAND (fair, reasonable, and non-discriminatory basis)

 

ที่มา : MXPhone

Tweet

Siri tan ไม่รู้จะกดปุ่มไมค์ ส่วนไหนดี!

ขึ้นชื่อว่าประเทศญี่ปุ่น ก็มักจะนำอะไรหลาย ๆ อย่างมาจับแปลงเป็นตัวการ์ตูนไปซะหมด ดังนั้น ระบบเลขาอัจฉริยะอย่าง Siri ของ Apple ที่มาพร้อมกับ iPhone มีหรือจะถูกจับมาทำเป็น Siri tan ด้วยจินตนาการสุดล้ำเลิศ Siri จากไมโครโฟนสีม่วง ก็กลายมาเป็น สาวน้อยคล้ายไซบอร์ก ที่ดูสวย ฉลาด และเซ็กซี่ ที่คอยเป็นผู้ช่วยแสนดี ให้กับผู้ใช้ ตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจาก Siri tan แล้ว ทางญี่ปุ่นยังมีไอเดียนำเอาเสียง Siri ภาษาญี่ปุ่น มาทำเป็น เพลงออกมาเป็นอัลบั้ม ซึ่งมีวางขายจริงๆ  ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดย Siri เป็นตัวละครชื่อ "ครูชิริ" อัลบั้มนี้มีทั้งหมด 14 เพลง โดยผูกเนื้อเรื่องให้เรียบร้อย ดังนี้

ทาเคชิ” ชายหนุ่มชีวิตสุดธรรมดาได้ไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ “ริงโกะ โฟน 5″ (Ringo = apple) เขาได้พบกับ “คุณครูชิริ” ที่มาพร้อมกับโทรศัพท์นั้น แล้วชีวิตของทาเคชิก็เปลี่ยนไปตลอดกาล ในขณะเดียวกัน “อเล็กซ์” นักเรียนชาวต่างชาติ ก็ตกหลุมรักคุณครูชิริเช่นเดียวกัน และยังมีเรื่องราวความอึดอัดทรมาณของคนในบริษัทริงโกะอย่าง “ทิม” (หือ?) คริสต์มาสนี้ สนุกแน่!

น้อง Win 7 สาวน้อยน่ารัก

การนำตัวการ์ตูนมาผูกเข้ากับ ซอฟต์แวร์นั้น เริ่มมาตั้งแต่ OS tan หรือการแปลง Windows เวอร์ชั่นต่างๆ  ออกมาเป็นตัวการ์ตูนสาวน้อยน่ารัก ๆ คิกขุสไตล์ญี่ปุ่นนั่นเอง เพื่อสร้าง รูปลักษณ์ที่เป็นมิตร และเข้าถึงง่าย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ระบบปฎิบัติการวินโดวส์ ก็เลย เป็นประเพณีกันทำต่อเนื่องกันมา

ที่มา : MacThai

Tweet

AppTube ได้รับแผ่นดีวีดีสำหรับติดตั้ง Microsoft Windows 8 Pro ที่ได้รับการอนุเคราะห์จากทาง ไมโครซอฟต์ (ประเทศไทย) จัดส่งมาให้ AppTube ก็เลยถือโอกาส มาบอกเล่าการประสบการณ์การอัพเกรด จาก Windows เวอร์ชั่นเดิม เปลี่ยนมาใช้งาน Windows 8 ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ?

จาก Windows สู่ Windows 8 วินโดวส์สำหรับทุกอุปกรณ์

ขอเกริ่นก่อนว่า Windows นั้นเป็นระบบปฎิบัติการ ที่เรียกได้ว่าเป็นระบบปฎิบัติการยอดนิยมสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (desktop PC) ทางไมโครซอฟต์ ครองตลาดพีซี มานาน ทั้งในภาคธุรกิจ ที่ใช้คอมพิวเตอร์ เพื่อใช้งาน และสำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่เน้น ใช้งานเพื่อความบันเทิง หรือใช้งานทั่วไป อย่างเช่น เล่นอินเทอร์เน็ต, เช็คอีเมล์, เล่นเกม หรือเข้าใช้งานเฟสบุ๊ค หรือทวิตเตอร์
แต่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมานั้น ตลาดที่คึกคักมากเป็นพิเศษกลับไม่ใช่ PC หรือ notebook อย่างที่เคยครองตลาด แต่เป็น อุปกรณ์สำหรับการพกพา อย่างสมาร์ทโฟน  และแท็บเล็ตแทน ที่มีการเติบโตสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็ว กลับกันตลาดคอมพิวเตอร์ ตั้งโต๊ะ และโน๊ตบุค ตลาดส่วนนี้กลับหดตัวลงเรื่อย ๆ อาจจะด้วยความที่ว่า สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตนั้น สามารถพกพาได้สะดวก เรียกใช้งานง่าย และใช้ได้ทุกที่ ทุกเวลา  ตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเวลาหลับ หลายคนก็จะมีอุปกรณ์ พกพาไว้ข้างกายอยู่ตลอด

เพื่อที่จะตามการเปลี่ยนแปลงนี้ให้ทัน ไมโครซอฟต์ที่ครองตลาดพีซีมานาน มีจุดเด่นโดยเฉพาะในฝั่งองค์กรธุรกิจ ที่มีโปรแกรมออฟฟิศ ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และใช้งานได้อย่างกว้างขวาง รวมทั้งซอฟต์แวร์ต่าง ๆ สำหรับองค์กรธุรกิจ แต่เมื่ออีกตลาดกำลังบูม อย่างมาก ผู้ใช้หลายคนมีสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตเป็นของตัวเอง ทางไมโครซอฟต์ รู้ความต้องการตลาดช่วงนี้ ที่กำลังเปลี่ยนผ่านจาก ยุคพีซีครอง ตลาดไปสู่ยุคอุปกรณ์พกพา จึงได้ออก Windows 8 เพื่อผู้ใช้พีซี , แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน โดยออกแบบให้มีความสมดุล ผู้ใช้สามารถใช้ Windows 8 กับอุปกรณ์ไหนก็ได้ ก็จะได้รับประสบการณ์การใช้รูปแบบเดียวกัน Windows 8 อยู่ระหว่างการใช้งานเพื่อธุรกิจ และความบันเทิงส่วนตัวนั่นเอง
ให้เห็นภาพง่ายขึ้นก็ย้อนนึกไปถึงสมัยยุค MSDOS เปลี่ยนผ่านไปสู่ Windows  ที่ผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับการใส่ command line ผ่านคียบอร์ด แบบ dos สามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วย mouse ด้วยการ ชี้เมาส์แล้วก็คลิก ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้งานได้ทั้งสองอย่าง ใน ระบบ Windows สำหรับ Windows 8 นั้นก็คล้ายกันกล่าวคือ ยังมี Desktop mode หรือหน้าตาการใช้งานแบบเดิมๆ ที่มีใน Windows 7 และหน้าตาส่วนผู้ใช้งานใหม่ ที่ออกแบบใหม่ ที่เรียกว่า Metro Style หรือเรียกว่า "Windows 8 UI" ที่ออกแบบมา เพื่ออุปกรณ์พกพาที่เป็นหน้าจอสัมผัสอย่างเช่น Windows Phone , แท็บเล็ต ที่ใช้ Windows 8 รวมทั้ง notebook / ultrabook ที่หน้าจอเป็นแบบ ทัชกรีน นั่นก็คือ ผู้ใช้สามารถใช้งานหน้าตาเดิมแบบใน Windows 7 ได้และยังใช้ หน้าตาการใช้แบบใหม่ Windows 8 UI ที่มีความสวยงาม และใช้งานได้ง่าย คล่องแคล่วขึ้นสำหรับอปุกรณ์ที่เป็นหน้าจอทัชกรีน โดยการใช้งานนั้นจะคล้ายคลึงกันระหว่าง Windows Phone และ Windows 8 UI เรียกว่า Windows 8 มีทุกสิ่งครบในตัวเดียวเลย ทั้งสำหรับ desktop pc, smart phone และ tablet
ข้อมูลเกี่ยวกับ Windows 8 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://windows.microsoft.com/th-TH/windows-8/meet  

แกะกล่อง Windows 8 Pro

หมายเหตุ : หน้าตาดีวีดี และกล่องจะแตกต่างจาก กล่องที่วางจำหน่ายตามร้านทั่วไป เพราะเป็นแผ่นสำหรับการรีวิว
แผ่นโปรแกรม Windows 8 Pro ที่ได้รับมานั้น เป็นแผ่นดีวีดี หน้าปกสีสันสดใส กับหลากสีสัน ดูแล้วรู้เลยว่า Windows 8 นั้น ต้องมีอะไรที่มีสีสัน พร้อมทั้งความหลากหลายเป็นแน่ ภายในซองดีวีดีนั้น ก็มีแผ่นดีวีดี Windows 8 Pro ทั้งสองเวอร์ชั่น คือ 32 bit version และ 64 bit version ซึ่งแผ่นก็ทำออกมาได้สวยงาม สีฟ้าตามโลโก้ ของ Windows 8 นั่นเอง ส่วน product key ที่ต้องใช้ตอนติดตั้งก็อยู่ภายในซองนั่นเอง แต่ปัญหาที่พบก็คือ เครื่องที่ใช้ทดสอบนั้น เป็น ultrabook เลยไม่มี DVD drive ติดมาด้วย ทำให้ติดตั้ง Windows 8 ผ่านดีวีดีไม่ได้แต่ ก็มีทางออกอยู่…..

การติดตั้ง และการอัพเกรดไปสู่วินโดวส์ 8 - เรื่องง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก

การอัพเกรดนั้นแบ่งเป็น 2 กรณีก็คือ การอัพเกรดจาก Windows 7, Windows 8 Consumer Preview หรือ Windows 8 Release Preview และการอัพเกรดจากระบบเก่าอย่าง Windows XP SP3, Windows Vista ซึ่งทั้งสองแบบมีเงื่อนไขต่างกันส่วนสเปค ขั้นต่ำ ของการอัพเกรด หรือติดตั้ง Windows 8 นั้น เรียกว่า หายห่วงเพราะต้องการเพียง Intel Atom CPU 1 GHz Ram 2 GB แต่ต้องการพื้นที่ใน harddisk สูงสักหน่อยคือ 20 GB
การอัพเกรดจาก Windows 7 Windows 8 Consumer Preview หรือ Windows 8 Release Preview  เราสามารถทำการอัพเกรดได้เลย โดยไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมที่มีอยู่แล้วใหม่อีกครั้ง (ยกเว้นโปรแกรมที่ยังไม่รองรับกับ Windows 8) สามารถใช้โปรแกรมที่ติดตั้งอยู่แล้วต่อได้เลย
ส่วนกรณีการอัพเกรดจาก Windows XP SP3, Windows Vista ไปเป็น Windows 8 โปรแกรมที่มีอยู่เดิม จะต้องทำการติดตั้งใหม่ทั้งหมด แต่ก็ไม่ยุ่งยาก เหมือนเมื่อก่อน ที่อาจจะต้อง ล้างเครื่องแล้ว ลง Windows ใหม่แบบ Clean Install กันเลย ซึ่งยุ่งยากและเสียเวลามากเลยทีเดียว
จากการทดสออัพเกรด Windows 7 ไปยัง Windows 8 นั้นทำได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาอะไรที่ติดขัด สำหรับเครื่องที่ใช้ทดสอบเป็น Lenovo U410 ultrabook ซึ่งไม่มี ช่อง DVD Drive มาให้ แต่เราก็สามารถติดตั้ง Windows 8 ได้ด้วยการดาวน์โหลดไฟล์ Windows8Setup.exe แล้วเรียกโปรแกรม เพื่อเริ่มดาวน์โหลดไฟล์และตัวติดตั้ง มาบันทึกไว้ในเครื่องของเราไว้ ซึ่งเน็ตแรงๆ หน่อยก็ใช้เวลาในการดาวน์โหลดไฟล์ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น โดยการติดตั้งตัวไฟล์ระบบ Windows 8 นั้นใช้เวลาเพียง 8-10 นาทีเท่านั้น หลังจากนั้นก็เครื่องจะทำการ รีบูตอัตโนมัติ เพื่อปรับแต่งการใช้งานสำหรับ Windows 8 โดยใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาทีก็เรียบร้อย รวม ๆ แล้วไม่เกิน 20-30 นาที ก็จะทำารอัพเกรดทั้งหมด ก็เป็นอันเรียบร้อย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ปริมาณแอพพลิเคชั่นเดิมที่มีอยู่ในเครื่องด้วย ซึ่งอาจจะใช้เวลา สำรองข้อมูลนานขึ้นไปอีก
ในที่นี้เลือก แล้ว "Install now" เพื่อทำการดาวน์โหลดไฟล์สำหรับติดตั้ง Windows 8 จากอินเทอร์เน็ต สำหรับใครที่ DVD drive ก็ใส่แผ่น DVD ได้เลยไม่ต้องรอโหลด
หลังจากการตรวจสอบ Windows 8 ตรวจพบ driver หรือโปรแกรมที่เข้ากันไม่ได้ กับ Windows 8 ก็จะทำการแจ้งเตือน และให้เราทำการ "uninstall" โปรแกรมที่ ใช้กับ Windows 8 ออกไปก่อน และ Windows 8 จะทำการรีบูตเครื่องอัตโนมัติ
การเราทำการผูก Microsoft Account ไปด้วยในการ signin ก็จะสามารถทำการ ซื้อ หรือดาวน์โหลด Application จาก Windows Store ได้

สัมผัสแรกกับประสบการณ์ใหม่

Windows 8 UI Style
ส่วนติดต่อการใช้งานกับผู้ใช้ (user interface) ที่ไมโครซอฟต์หยิบมาจาก Windows Phone นั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนการใช้งานที่เริ่มแรกสำหรับหน้าจอสัมผัส ไมโครซอฟต์ก็มาปรับเปลี่ยน ให้ใช้งานกับ desktop PC ได้ด้วย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ยากในการออกแบบ เพราะต้องใช้ งานง่าย และสะดวก ทั้งการใช้นิ้วสั่งงานผ่านหน้าจอสัมผัส และการใช้งานผ่านเมาส์
New Start mode and desktop mode
Windows 8 เมื่อเริ่มต้นจะเปิดมาที่ Start Page ส่วนนี้ไม่มีเค้าเดิมของ Windowsเดิมเลย ดังนั้นใครจะใช้ส่วนนี้ ก็ต้อง เรียนรู้การใช้งานใหม่ทั้งหมด ซึ่งเราจะเริ่มใช้ Windows 8 UI ใหม่นี้ ตั้งแต่ หน้าเริ่ม หรือ Start Page ที่เป็นศูนย์รวม แอพพลิเคชั่น และข้อมูลข่าวสาร จากโซเซียลเน็ตเวิร์คส่วนตัวของเรา
อีกจุดเด่นของ Windows 8 ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ระบบการค้นหา และการ index ข้อมูลนั้น รวดเร็วขึ้นมาก ไม่มีกระตุก รวมทั้งสามารถทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดีระบบค้นหาใน Windows นั้นเป็นแบบองค์รวม คือสามารถค้นหาข้อมูลต่างๆ ได้ทั้งหมด ตามประเภทการค้นหาที่ต้องการ
แต่สำหรับคนไม่คุ้นเคย Windows 8 UI ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถสลับกลับมายัง desktop mode หรือโหมดหน้าตาการใช้งานแบบ Windows 7 แบบเดิม ๆ (ที่ยังมีปุ่ม Start) ได้ตลอดเวลา แล้วค่อยทำความคุ้นเคยกับ Windows 8 UI ซึ่งมีจุดดีหลายอย่างเช่น เราสามารถค้นหาแอพพลิเคชั่น หรือเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย บน
อินเทอร์เฟสที่มีสีสัน และสวยงาม แบบที่เรียกว่า Live tiles ยิ่งถ้าใช้กับหน้าจอ ทัชกรีน แล้วด้วยหละก็จะยิ่งใช้งานได้สะดวกมากขึ้น
Live tiles
จุดโดดเด่นของ Windows 8 UI ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ Live tiles หรือการแสดงข้อมูลแบบเรียลไทม์ ที่มีลักษณะการจัดวาง คล้ายการปูกระเบื้อง (tiles) นั่นเอง การอัพเดตข้อมูล และแสดงข้อมูลอัตโนมัติ ทำให้หน้าจอการใช้งาน Windows ของเรามีสีสัน ไม่จืดชืด อีกต่อไป แถมยังสะดวกสามารถดูข้อมูลทุกอย่างตามต้องการของเรา ได้ในการ มองครั้งเดียว
Built-in apps and Apps on Windows Store
สำหรับ Windows 8 นั้นทางไมโครซอฟต์ ได้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นพื้นฐาน มาให้พวกเรา ได้ใช้กันอยู่จำนวนหนึ่ง ซื้อเพียงพอกับการใช้งานทั่วไป เช่น Mail, Weather, Messaging, Financial, News, Sports
Mail นั้นทำให้การอ่านเมลเป็นสะดวกมากขึ้น สามารถจัดการต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะ hotmail แต่สามารถใช้ได้ทั้ง gmail, yahoo mail และอื่น ๆ อีกด้วย
สิ่งใหม่ที่เพิ่มมาอีกอันก็คือ Windows Store สำหรับการเลือกซื้อแอพผ่าน Windows ได้เลยอีกด้วย Windows Store ซึ่งเป็นศูนย์รวมแอพพิลเคชั่นต่าง ๆ ไว้ให้เลือกซื้อ เลือกดาวน์โหลด โดยจะเชื่อมโยงกับ Microsoft Account ของเรา ซึ่งใครชอบโหลดแอพ มาใช้งานก็เฉพาะยิ่งขึ้น เพราะเพียงเข้า Windows Store ก็มีแอพต่างๆ ให้เลือกใช้ และแน่นอนก็มี Thai app ให้เลือกใช้ด้วย เช่น Major Movie Plus, Thai Rath, เรื่องเล่าเช้านี้ และอื่น ๆ
Windows Store มีชาร์ทจัดอันดับ แอพพลิเคชั่นยอดนิยม ทั้งแบบเสียเงิน และแบบฟรี ดังนั้น การเลือกใช้แอพ เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากทีเดียว
Lock Screen
โดยส่วนตัวแล้ว ชื่นชอบส่วนของ lock screen ของ Windows 8 เพราะสวยงามดี
Multitasking
ระบบ multitasking ใน Windows 8 UI นั้นมีจุดเด่นที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะกับ ใครที่ใช้หน้าจอมอนิเตอร์ที่ใหญ่ซักหน่อย เราสามารถแบ่งหน้าจอการใช้งาน ให้เป็น 75% + 25% หรือสลับกัน ทำให้เราสามารถมีพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่มากขึ้น เช่นแบ่งพื้นที่ ไว้อ่านอีเมล พร้อมกับการล่องเว็บไปด้วยพร้อมกัน

Tast Manager
การจัดการทรัพยากรของเครื่องนั้น ก็มีการปรับปรุงเช่นกัน หน้าตาให้สวยทันสมัยขึ้น โดยมีการปรับปรุง เราสามารถเช็คได้ว่า แอพพลิเคชั่นตัวไหน ถูกพักการใช้งานไว้ (suspended) ทำให้แอพไม่จองทรัพยากรเครื่อง ไว้โดยไม่จำเป็น ทำให้การใช้งานไหลลื่นด้วย
นอกจากนั้น เราสามารถตรวจสอบได้ว่า แอพตัวไหน ที่ใช้ทรัพยากรเครื่อง มากหรือน้อยแค่ไหน ให้เราเช็คได้ว่า แอพไหนเป็นตัวปัญหาทำให้ทรัพยากรเครื่องต่ำลง แต่ทั้งนี้ การมอนิเตอร์ แบบนี้จะทำได้เฉพาะ แอพพลิเคชั่นแบบ Windows 8 UI เท่านั้น
Picture password
ฟีเจอร์ ไฉไลของ Windows 8 กับ Picture Password นี้ เหมาะสำหรับ หน้าจอสัมผัส แต่สำหรับเครื่อง desktop ก็ใช้เมาส์ หรือคียบอร์ด แทนได้ Picture password นั้นเป็นการระบบการเข้าใช้งาน (sign in) แบบใหม่ ของไมโครซอฟต์ โดยการที่ใช้ การลากนิ้วตามตำแหน่งภาพต่างๆ ตามที่ เราตั้งไว้ ตามใจชอบ ดูสาธิตการใช้งานจากวีดีโอ จะเข้าใจง่ายขึ้น
Windows 8 มาด้วยความหลากหลายสีสันอยู่แล้ว ดังนันเรื่องการปรับแต่งหน้าตาการใช้งานนั้น เราสามารถปรับแต่งได้หลากหลายเลยทีเดียว ทั้งการปรับแต่ง Theme, screen save, sounds, desktop background และสีสันการใช้งาน (vidual style) รับรองว่าใช้ Windows 8 ไม่ขายสีสันแน่นอน
Skydrive (Cloud connected)
Skydrive นั้นเป็นบริการฝากข้อมูลไว้บน cloud service สำหรับผู้ใช้ iPhone ก็นึกคือ iCloud นั่นเอง สำหรับ Windows 8 นั้น Skydrive เป็น ส่วนหนึ่งในระบบเลย เมื่อเชื่อมโยง Microsoft account เรียบร้อยแล้ว เราก็เปิดการใช้ Skydrive ได้ทันที โดยจะมีโฟลเดอร์ที่เป็น Cloud ไว้บนเครื่องของเรา เพื่อให้เราบันทึกข้อมูลต่างๆบน Cloud ได้อย่างง่ายดาย เสมือนเรามี USB Storage เพิ่มมาอีก 1 drive ฟรี ๆ 7 GB เลยทีเดียว

Social integration - ผสานการใช้งานเครือข่ายสังคมหลายรูปแบบ
Windows 8 นั้นผสานการใช้งานเครือข่ายสังคมมาในระบบ ตั้งแต่ต้นเลย ดังนั้น ติดตาม facebook status, twitter ก็เป็นเรื่องง่ายดาย เรียกว่าใครติด facebook, twitter ก็สามารถ follow เพื่อนๆ ได้ง่ายดายในครั้งเดียว ไม่ต้อง เสียเวลาไปเปิดเว็บบราวเซอร์ และแน่นอนการแชร์รูปภาพ ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงลากเมาส์ไปมุมด้านขวาของจอ ก็จะเจอ ปุ่ม "Share"
Pin to start
Pin to start เป็นการปักหมุด แอพที่เราชอบใช้บ่อย ๆ เป็นประจำ เมื่อเราใช้ไปเรื่อย ๆ แอพ เราอาจจะเยอะขึ้น การปักหมุดไว้ทำให้เราสะดวกมากขึ้นในการเรียกหาแอพที่ใช้เป็นประจำนั่นเอง

อื่นๆ

Internet Explorer มีทั้งสองแบบ คือแบบโปรแกรมดั้งเดิมสำหรับ desktop mode และ Internet Explorer แบบ Windows 8 UI ที่ให้พื้นที่เต็มที่กับการท่องเว็บ โดย เมื่อคลิกขวา หรือแตะหน้าจอค้างไว้จะมี URL bar และแท็บแสดงขึ้นมา ให้ความสะดวก ในการใช้งานมากขึ้น
Windows 8 ปรับปรุงหน้าตา ส่วนของการ transfer file ยอ่างเช่น delete และ copy  ใหม่ให้ดูดีขึ้น และข้อมูลที่มาในรูปแบบกราฟ นอกจากนี้ ยังทำงานได้รวดเร็วขึ้น อย่าง รู้สึกได้