Sunday, September 30, 2012

วิธีการใช้งาน Find My iPhone และ Lost Mode ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 6

 

Find-My-iPhone1

หลังจากการออก iOS 6 ทาง แอปเปิลก็ได้ อัพเดต Find My iPhone / iPad app ใหม่  เพื่อรองรับ iOS 6 และมีการปรับเปลี่ยนหน้าตา ให้คล้ายกับ Find My Friends app มากขึ้น  รวมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "Lost Mode" เพื่อช่วยติดตาม เครื่องที่หายไป โดยปรับปรุงเพิ่มเติมจาก Find My iPhone เดิม ที่ทำได้แค่ ส่งเสียงเตือน, ส่งข้อความ, ล็อคเครื่อง และลบข้อมูลเครื่องระยะไกล  สำหรับ Lost Mode เราทำได้มากกว่านั้น

เมื่อเราสั่งให้เครื่องที่หายไปนั้น เข้าสู่ Lost Mode เราสามารถตั้ง passcode เพื่อล็อคเครื่องได้จากระยะไกล , ล็อคเครื่อง, ส่งข้อความพร้อมเบอร์ติดต่อกลับ เผื่อในกรณีมีคนพบเครื่อง ให้เขาสามารถติดต่อกลับได้แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ ในเครื่องได้ และเมื่อเครื่องอยู่ในสภาวะ offline เราสามารถตั้งให้ระบบ ส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อเครื่องที่หายมีโอกาสต่อ Wi-Fi หรือสัญญาณโทรศัพท์ รวมทั้งติดตามตำแหน่ง เมื่อเครื่องมีการเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิม

iPhone และ iPad เป็นอุปกรณ์ยอดนิยม ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะ โดนลักขโมยสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้น แนะนำให้เปิดฟีเจอร์ Find My iPhone เอาไว้ทุกครั้งที่มีการเปิดใช้เครื่องใหม่ แม้จะตามโทรศัพท์ กลับมาไมได้ แต่อย่างน้อย เรายังมีตัวเลือกในการดำเนินการต่างๆ  ได้

วิธีเปิดการใช้งาน Find My iPhone ใน iOS 6

 

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-15


1. ไปที่ Settings > iCloud ทำการ sign in iCloud account ของเรา โดยการใส่ Apple ID และ password  ลงไป
2. ที่ iCloud  เลือก Find my iPhone ให้เป็น "ON"
3. ไปที่ App Store แล้วค้นหา "Find my iPhone" และทำการติดตั้งเพื่อการใช้งานในภายหลัง

เบื้องต้นกับการใช้งาน Find My iPhone app

 

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-16

เมื่อทำการติดตั้ง Find My iPhone app เรียบร้อยแล้ว ครั้งแรก ให้เราทำการใส่ Apple ID กับ Password (สำหรับ iOS 6 ไม่จำเป็นต้องใส่ Apple ID หลาย ๆ รอบแล้ว)

แอพจะจำข้อมูลของเราค้างไว้เลย เมื่อใส่ Apple ID และ รหัสผ่านแล้ว จะพบหน้า "My Devices"  ซึ่งรวมจำนวนอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ iCloud account เดียวกัน ให้สังเกตที่ ลูกกลมๆ ด้านหน้าแต่ละเครื่อง โดย สีเขียวแปลว่า ค้นพบตำแหน่งเครื่องนั้น ๆ แล้ว ส่วน สีเทาแปลว่า ไม่สามารถติดต่อ เครื่องนั้นๆ  เพื่อระบุ ตำแหน่งได้ ซึ่งมีหลายสาเหตุลเช่น แบตหมด, โดนล้างข้อมูลไปแล้ว, ไม่มีสัญญาณเน็ต

ถ้าเครื่องที่เราต้องการค้นหาเป็นสีเขียว ก็ให้เลือกเครื่องที่ต้องการนั้นได้เลย ซึ่งเราจะได้ข้อมูล  พิกัดตัวเครื่องที่หายไป พร้อมสามารถเลือกสั่งงานจากระยะไกลได้

เข้าควบคุมเครื่องระยะไกล

 

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-12

เมื่อเข้ามาหน้า info page ของเครื่องที่หายไปแล้ว เราสามารถสั่งงานระยะไกลได้หลายอย่าง อย่างแรกก็คือ เราสามารถส่ง เสียงไปยังเครื่องที่หายได้ อันนี้เหมาะสำหรับ คนที่กำลังหาเครื่องว่าหล่นอยู่ในบ้าน หรือในรถ หรือปล่า ? อย่างที่สองก็คือ เราเปิดการใช้ Lost mode และสุดท้ายคือ ลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง

ที่มุมบนด้านขวาของ info page เมื่อเราแตะไปจะมีตัวเลือก เกี่ยวกับแผนที่ ที่เราใช้ (สำหรับ iOS 6 Map ใน Find my iPhone จะเป็น Apple Maps แล้ว) โดยค่าเริ่มต้น จะเป็น standard view เราสามารถเปลี่ยนการแสดงป็น ภาพถ่ายจากดาวเทียม หรือ การผสมระหว่างเส้นทางถนน กับภาพถ่ายดาวเทียมรวมกัน (hybrid map) ซึ่ง เหมือนกับที่ใช้ใน Apple Maps นั่นเอง

ปุ่มส่งเสียง (Play Sound)

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-17

ปุ่มนี่เมื่อแตะแล้วจะมีเสียงปี๊ปดังยังเครื่องที่หาย โดยไม่สนใจว่า เครื่องปิดเสียง หรือลดเสียงลงจนเบา เสียงที่ส่งไปนั้นจะยังดัง นอกจาก เสียงดังขึ้นที่เครื่องแล้ว จะมีข้อความหนึ่งที่หน้า Lock Screen เพื่อแสดง ความให้คนที่เก็บโทรศัพท์เราได้ เช่นทิ้งเบอร์โทร ให้คนที่เก็บได้ นอกจากนั้น กรณี ที่เครื่องไม่ได้ต่อเน็ตไว้ตอนแรก เมื่อเครื่องต่อเน็ตเมื่อไหร่ เสียงจะดังขึ้นทันที พร้อมมีอีเมลแจ้งเตือนเราว่า เสียงและข้อความได้ส่งไปยังเครื่องที่หายแล้ว

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-20

ปุ่มลบข้อมูล (Erase iPhone / iPad)

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-18

เมื่อแตะปุ่มนี้ จะเป็นการล้างข้อมูลในเครื่องทั้งหมด ในกรณีที่คิดว่า ไม่ได้เครื่องคืนแล้ว อย่างน้อยก็ลบข้อมูลสำคัญทิ้งก่อนดีกว่า แต่อย่าลืมว่า เมื่อใช้ฟังกช์ันนี้แล้ว เราจะไม่สามารถติดตามเครื่องได้อีกแล้ว เนื่องจากข้อมูลถูก ล้างไปหมดแล้ว แนะนำว่าควรใช้ฟังก์ชันนี้ เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้คืนแล้ว เพราะ ถ้าเกิดโชคดีได้เครื่องคืน เราสามารถ restore from backup สำหรับข้อมูลที่ ลบออกไปได้อยู่แล้ว เมื่อเรียกใช้งานจะมีหน้าตาเตือน ก่อนลบ และเราจำเป็นต้องใส่ Apple ID / password ที่เป็น iCloud account ประจำเครื่องก่อนลบอีกด้วย

โหมดเครื่องหาย หรือโดนขโมย (Lost Mode)

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-14

ฟังก์ชันนี้เป็นโหมดใหม่ เราสามารถสั่งเครื่องให้ตั้้งรหัสผ่านหน้าจอ (passcode lock), ติดตามเครื่อง, ติดต่อกับเครื่องที่หายได้จากระยะไกล เมื่อแตะ ที่ Lost Mode จะมีหน้าตาให้ใส่รหัสผ่าน (passcode) เพื่อตั้งรหัสผ่านให้กับเครื่อง ที่หายไป

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-09 

ต่อมาเราจะต้องใส่เบอร์โทรที่ติดต่อกลับได้ ซึ่งเบอร์โทรนี้จะ ขึ้นที่หน้าล็อคกรีน ให้เรา

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-11

สุดท้าย เราสามารถใส่ข้อความใด ๆ เพื่อแจ้งให้กับผู้ที่เก็บโทรศัพท์เราได้  สำหรับ เบอร์โทร และข้อความ เราไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ เมื่อเปิด Lost Mode แล้ว เราจะได้รับอีเมลแจ้งเข้ามายังอีเมล ที่เราผูกไว้กับ iCloud

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-21

เมื่ออยู่ในโหมดนี้ เราสมารถกลับมาเปลี่ยน แก้ไข เบอร์โทร และข้อความได้ตลอด และเมื่อเราเปิด "ON" ให้กับ Email Updates เราจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนทุกครั้ง ที่เครื่องที่หายมีการย้ายตำแหน่ง

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-03

สำหรับคำถามที่ว่า แล้วเครื่องถูกปิดอยู่ แล้วจะเปิด Lost Mode ยังไง ? คำตอบก็คือ เครื่องจะเข้าสถานะ pending mode ไว้และจะเริ่มเข้า lost mode เมื่อเครื่องที่หาย ต่อออนไลน์ได้

Find My iPhone เวอร์ชันใหม่นี้ มีการปรับเปลี่ยนหน้าตา และการใช้งาน ให้ดีขึ้นกว่าเวอร์ชันเดิม ให้เราสามารถติดตาม เครื่อง ที่หาย หรือโดนขโมย ได้ง่ายขึ้น จุดเปลี่ยนแปลงอีกจุดก็คือ เรื่องของแผนที่ โดยใน Find my iPhone app นั้นจะใช้ Apple Maps ส่วน Find my iPhone ผ่านทาง icloud.com จะยังใช้ Google Maps อยู่ ดังนั้นถ้า Apple Maps ไม่ละเอียดพอ สามารถ เปิดดูผ่านคอม ที่ icloud.com แทนได้ และ Find my iPhone นี้ สามารถใช้กับ iPad ด้วยเช่นกัน

สำหรับใครที่ใช้เครื่อง iOS ทั้งหลาย ก็แนะนำว่า เมื่อ restore เครื่อง ใหม่ หรือซื้อเครื่องใหม่มา ก็เปิดการใช้งาน Find my iPhone กันไว้ แต่เนิ่น ๆ เลย เรียกว่ากันไว้ดีกว่า ไอโฟนหายจะไม่มีให้ตามกัน

 

 

ที่มา : iDownloadblog

0 Responses to “วิธีการใช้งาน Find My iPhone และ Lost Mode ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 6”

Post a Comment

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
All Rights Reserved iPhoneAppTube | Blogger Template by Bloggermint