Sunday, September 30, 2012

Traffic Police : เช็คสภาพการจราจรผ่านกล้องวงจรปิด Bangkok CCTV ทั่วกรุงเทพแบบเรียลไทม์ [Thai app review]

mzl.ohhdwxgi.320x480-75mza_9120520830051382623.320x480-75

ช่วงหน้าฝนคะนอง แบบนี้ การเช็คจราจรเพื่อวางแผนก่อนเดินทาง ก็เป็นทางเลือกที่ดี สำหรับผู้ใช้ iOS 6 ก็ไม่มี Google Maps ให้ใช้แล้ว ซึ่ง Apple Maps ไม่รองรับ การรายงานจราจร แบบ Google Maps สำหรับประเทศไทย แต่เรายังมีทางเลือกอื่นอย่างเช่น Traffic Police by dtac  แอพสำหรับรายงานสภาพจราจร ผ่านไอโฟน โดยความร่วมมือของ กองบังคับการตำรวจจราจร  โดยแจกฟรี และสามารถใช้ได้ทุกเครือข่าย ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใช้ดีแทค 

mza_5673202985300535559.320x480-75mza_5113130820457952408.320x480-75

Traffic Police by dtac สามารถเช็คสภาพจราจร ได้สองแบบก็คือ ผ่านข้อมูล ป้ายสภาพจราจรอัจฉริยะ ตามพื้นที่ที่มีการจราจรคับคั่ง หรืออีกทางหนึ่งก็คือสภาพการจราจร จาก Traffy ตามแผนที่ แบบเดียวกับที่มีใน Google Maps

นอกจากนั้น เรายังสามารถ ดูกล้องวงจรปิด เพื่อดูสภาพจราจรผ่านกล้องแบบสด ๆ กันเลย ทั่วพื้นที่ กรุงเทพ และเรายังค้นหา สถานที่สำคัญ ๆ เช่น ปั้มน้ำมัน, ร้านสะดวกซื้อ, สถานที่ราชการ, ไปรษณีย์ หรือ ฯลฯ ที่ใกล้เคียงกับตำแหน่งของเราได้  แถมมีแนะนำร้านอาหารท่านรับประทาน ข้อมูลโดย edt guide อีกด้วย

Traffic Policy by dtac มีอะไรน่าสนใจ ?

บริการข้อมูลต่างๆ ดังนี้

•Map: ตรวจสอบสภาพจราจรตามถนนเส้นต่างๆ
•CCTV: ภาพรายงานจากกล้อง CCTV ตามสถานที่ต่างๆ
•Search: หาสถานที่ต่างๆที่เราต้องการในพื้นที่ใกล้เคียง
•dtac shop: รวบรวมที่อยู่ และเบอร์ติดต่อ dtac centre ต่างๆ
•dtac 3G coverage: ตรวจสอบพื้นที่ครอบคลุมของ dtac 3G
•EDT Guide: แนะนำสถานที่ กิน ดื่ม เที่ยว สำหรับลูกค้าดีแทคเท่านั้น
•Friends : รวบรวมหมายเลขฉุกเฉิน และหมายเลขสำคัญ

itunes.apple.com 2012-9-30 219

Traffic Police by dtac

  • Free

  • Category: Utilities
  • Updated: 20 June 2012
  • Version: 1.4
  • Size: 5.0 MB
  • Language: English
  • Developer: Brain Source Company Limited
  • Copyright© 2002 Trafficpolice.go.th All Rights Reserved.

Rated 4+

Requirements: Compatible with iPhone, iPod touch and iPad. Requires iOS 4.2 or later.

Sunday, September 30, 2012 by GiZMo · 0

วิธีการใช้งาน Find My iPhone และ Lost Mode ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 6

 

Find-My-iPhone1

หลังจากการออก iOS 6 ทาง แอปเปิลก็ได้ อัพเดต Find My iPhone / iPad app ใหม่  เพื่อรองรับ iOS 6 และมีการปรับเปลี่ยนหน้าตา ให้คล้ายกับ Find My Friends app มากขึ้น  รวมทั้งเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "Lost Mode" เพื่อช่วยติดตาม เครื่องที่หายไป โดยปรับปรุงเพิ่มเติมจาก Find My iPhone เดิม ที่ทำได้แค่ ส่งเสียงเตือน, ส่งข้อความ, ล็อคเครื่อง และลบข้อมูลเครื่องระยะไกล  สำหรับ Lost Mode เราทำได้มากกว่านั้น

เมื่อเราสั่งให้เครื่องที่หายไปนั้น เข้าสู่ Lost Mode เราสามารถตั้ง passcode เพื่อล็อคเครื่องได้จากระยะไกล , ล็อคเครื่อง, ส่งข้อความพร้อมเบอร์ติดต่อกลับ เผื่อในกรณีมีคนพบเครื่อง ให้เขาสามารถติดต่อกลับได้แต่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ ในเครื่องได้ และเมื่อเครื่องอยู่ในสภาวะ offline เราสามารถตั้งให้ระบบ ส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อเครื่องที่หายมีโอกาสต่อ Wi-Fi หรือสัญญาณโทรศัพท์ รวมทั้งติดตามตำแหน่ง เมื่อเครื่องมีการเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิม

iPhone และ iPad เป็นอุปกรณ์ยอดนิยม ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะ โดนลักขโมยสูงด้วยเช่นกัน ดังนั้น แนะนำให้เปิดฟีเจอร์ Find My iPhone เอาไว้ทุกครั้งที่มีการเปิดใช้เครื่องใหม่ แม้จะตามโทรศัพท์ กลับมาไมได้ แต่อย่างน้อย เรายังมีตัวเลือกในการดำเนินการต่างๆ  ได้

วิธีเปิดการใช้งาน Find My iPhone ใน iOS 6

 

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-15


1. ไปที่ Settings > iCloud ทำการ sign in iCloud account ของเรา โดยการใส่ Apple ID และ password  ลงไป
2. ที่ iCloud  เลือก Find my iPhone ให้เป็น "ON"
3. ไปที่ App Store แล้วค้นหา "Find my iPhone" และทำการติดตั้งเพื่อการใช้งานในภายหลัง

เบื้องต้นกับการใช้งาน Find My iPhone app

 

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-16

เมื่อทำการติดตั้ง Find My iPhone app เรียบร้อยแล้ว ครั้งแรก ให้เราทำการใส่ Apple ID กับ Password (สำหรับ iOS 6 ไม่จำเป็นต้องใส่ Apple ID หลาย ๆ รอบแล้ว)

แอพจะจำข้อมูลของเราค้างไว้เลย เมื่อใส่ Apple ID และ รหัสผ่านแล้ว จะพบหน้า "My Devices"  ซึ่งรวมจำนวนอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ iCloud account เดียวกัน ให้สังเกตที่ ลูกกลมๆ ด้านหน้าแต่ละเครื่อง โดย สีเขียวแปลว่า ค้นพบตำแหน่งเครื่องนั้น ๆ แล้ว ส่วน สีเทาแปลว่า ไม่สามารถติดต่อ เครื่องนั้นๆ  เพื่อระบุ ตำแหน่งได้ ซึ่งมีหลายสาเหตุลเช่น แบตหมด, โดนล้างข้อมูลไปแล้ว, ไม่มีสัญญาณเน็ต

ถ้าเครื่องที่เราต้องการค้นหาเป็นสีเขียว ก็ให้เลือกเครื่องที่ต้องการนั้นได้เลย ซึ่งเราจะได้ข้อมูล  พิกัดตัวเครื่องที่หายไป พร้อมสามารถเลือกสั่งงานจากระยะไกลได้

เข้าควบคุมเครื่องระยะไกล

 

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-12

เมื่อเข้ามาหน้า info page ของเครื่องที่หายไปแล้ว เราสามารถสั่งงานระยะไกลได้หลายอย่าง อย่างแรกก็คือ เราสามารถส่ง เสียงไปยังเครื่องที่หายได้ อันนี้เหมาะสำหรับ คนที่กำลังหาเครื่องว่าหล่นอยู่ในบ้าน หรือในรถ หรือปล่า ? อย่างที่สองก็คือ เราเปิดการใช้ Lost mode และสุดท้ายคือ ลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่อง

ที่มุมบนด้านขวาของ info page เมื่อเราแตะไปจะมีตัวเลือก เกี่ยวกับแผนที่ ที่เราใช้ (สำหรับ iOS 6 Map ใน Find my iPhone จะเป็น Apple Maps แล้ว) โดยค่าเริ่มต้น จะเป็น standard view เราสามารถเปลี่ยนการแสดงป็น ภาพถ่ายจากดาวเทียม หรือ การผสมระหว่างเส้นทางถนน กับภาพถ่ายดาวเทียมรวมกัน (hybrid map) ซึ่ง เหมือนกับที่ใช้ใน Apple Maps นั่นเอง

ปุ่มส่งเสียง (Play Sound)

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-17

ปุ่มนี่เมื่อแตะแล้วจะมีเสียงปี๊ปดังยังเครื่องที่หาย โดยไม่สนใจว่า เครื่องปิดเสียง หรือลดเสียงลงจนเบา เสียงที่ส่งไปนั้นจะยังดัง นอกจาก เสียงดังขึ้นที่เครื่องแล้ว จะมีข้อความหนึ่งที่หน้า Lock Screen เพื่อแสดง ความให้คนที่เก็บโทรศัพท์เราได้ เช่นทิ้งเบอร์โทร ให้คนที่เก็บได้ นอกจากนั้น กรณี ที่เครื่องไม่ได้ต่อเน็ตไว้ตอนแรก เมื่อเครื่องต่อเน็ตเมื่อไหร่ เสียงจะดังขึ้นทันที พร้อมมีอีเมลแจ้งเตือนเราว่า เสียงและข้อความได้ส่งไปยังเครื่องที่หายแล้ว

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-20

ปุ่มลบข้อมูล (Erase iPhone / iPad)

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-18

เมื่อแตะปุ่มนี้ จะเป็นการล้างข้อมูลในเครื่องทั้งหมด ในกรณีที่คิดว่า ไม่ได้เครื่องคืนแล้ว อย่างน้อยก็ลบข้อมูลสำคัญทิ้งก่อนดีกว่า แต่อย่าลืมว่า เมื่อใช้ฟังกช์ันนี้แล้ว เราจะไม่สามารถติดตามเครื่องได้อีกแล้ว เนื่องจากข้อมูลถูก ล้างไปหมดแล้ว แนะนำว่าควรใช้ฟังก์ชันนี้ เมื่อแน่ใจว่าไม่ได้คืนแล้ว เพราะ ถ้าเกิดโชคดีได้เครื่องคืน เราสามารถ restore from backup สำหรับข้อมูลที่ ลบออกไปได้อยู่แล้ว เมื่อเรียกใช้งานจะมีหน้าตาเตือน ก่อนลบ และเราจำเป็นต้องใส่ Apple ID / password ที่เป็น iCloud account ประจำเครื่องก่อนลบอีกด้วย

โหมดเครื่องหาย หรือโดนขโมย (Lost Mode)

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-14

ฟังก์ชันนี้เป็นโหมดใหม่ เราสามารถสั่งเครื่องให้ตั้้งรหัสผ่านหน้าจอ (passcode lock), ติดตามเครื่อง, ติดต่อกับเครื่องที่หายได้จากระยะไกล เมื่อแตะ ที่ Lost Mode จะมีหน้าตาให้ใส่รหัสผ่าน (passcode) เพื่อตั้งรหัสผ่านให้กับเครื่อง ที่หายไป

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-09 

ต่อมาเราจะต้องใส่เบอร์โทรที่ติดต่อกลับได้ ซึ่งเบอร์โทรนี้จะ ขึ้นที่หน้าล็อคกรีน ให้เรา

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-11

สุดท้าย เราสามารถใส่ข้อความใด ๆ เพื่อแจ้งให้กับผู้ที่เก็บโทรศัพท์เราได้  สำหรับ เบอร์โทร และข้อความ เราไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ เมื่อเปิด Lost Mode แล้ว เราจะได้รับอีเมลแจ้งเข้ามายังอีเมล ที่เราผูกไว้กับ iCloud

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-21

เมื่ออยู่ในโหมดนี้ เราสมารถกลับมาเปลี่ยน แก้ไข เบอร์โทร และข้อความได้ตลอด และเมื่อเราเปิด "ON" ให้กับ Email Updates เราจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนทุกครั้ง ที่เครื่องที่หายมีการย้ายตำแหน่ง

iPhone-Find-My-iPhone-Lost-Mode-03

สำหรับคำถามที่ว่า แล้วเครื่องถูกปิดอยู่ แล้วจะเปิด Lost Mode ยังไง ? คำตอบก็คือ เครื่องจะเข้าสถานะ pending mode ไว้และจะเริ่มเข้า lost mode เมื่อเครื่องที่หาย ต่อออนไลน์ได้

Find My iPhone เวอร์ชันใหม่นี้ มีการปรับเปลี่ยนหน้าตา และการใช้งาน ให้ดีขึ้นกว่าเวอร์ชันเดิม ให้เราสามารถติดตาม เครื่อง ที่หาย หรือโดนขโมย ได้ง่ายขึ้น จุดเปลี่ยนแปลงอีกจุดก็คือ เรื่องของแผนที่ โดยใน Find my iPhone app นั้นจะใช้ Apple Maps ส่วน Find my iPhone ผ่านทาง icloud.com จะยังใช้ Google Maps อยู่ ดังนั้นถ้า Apple Maps ไม่ละเอียดพอ สามารถ เปิดดูผ่านคอม ที่ icloud.com แทนได้ และ Find my iPhone นี้ สามารถใช้กับ iPad ด้วยเช่นกัน

สำหรับใครที่ใช้เครื่อง iOS ทั้งหลาย ก็แนะนำว่า เมื่อ restore เครื่อง ใหม่ หรือซื้อเครื่องใหม่มา ก็เปิดการใช้งาน Find my iPhone กันไว้ แต่เนิ่น ๆ เลย เรียกว่ากันไว้ดีกว่า ไอโฟนหายจะไม่มีให้ตามกัน

 

 

ที่มา : iDownloadblog

by GiZMo · 0

iPod Nano : Gadget ที่มีเปลี่ยนดีไซน์บ่อยที่สุดของแอปเปิล ?

ipodnanos_thumb3

iPod Nano นั้นเปิดตัวเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2005 โดยไอพอดนาโนมาแทน iPod ตระกูล iPod Mini นั่นเอง ผ่านมา 8 ปี 7 รุ่นแล้ว สำหรับ ไอพอดนาโน นี้ เรียกว่าแอปเปิล เปลี่ยนแปลง ดีไซน์บ่อยมากที่สุดเมื่อเทียบกับ ผลิตภัณฑ์แอปเปิลอื่น ๆ ที่มักคงเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ไว้ สำหรับ ไอพอดนาโน นั้นเปลี่ยนมาหมดแล้วตั้งแต่ใช้วัดสุโลหะ ยังพลาสติก, จากสูงเพรียว ไป อ้วนเตีย, มี click-wheel ไปจนถึงหน้าจอสัมผัส และมีหลากหลายสีสัน เรามาไล่เรียงดูกันว่า Apple เปลี่ยนหน้าตา iPod Nano ยังไงบ้าง ?

2005 iPod Nano 1G - บาง เบา

ipodnano1n_thumb5


เปิดตัวสมชื่อนาโน โดยความหนาของตัวเครื่องเพียง 7 มิลลิเมตร (โดยประมาณ) หน้าจอ 176x132 pixels น้ำหนักเบา
เพียง 43 กรัม มาเพียง 2 สี ขาว-ดำ และความจุสูงสุดคือ 4 GB.

2006 iPod Nano 2G – สีสัน

ipodnano2_thumb3

สำหรับรุ่นสองนี้ ไม่ได้เปลี่ยนดีไซน์ แต่เปลี่ยนวัสดุเป็นอะลูมีเนียม และมีถึง 6 สีด้วยกัน ความจุสูงสุด 8 GB. นอกจากเรื่องสีสันแสบตาแล้ว อย่างอื่นไม่มีไรเปลี่ยนไปนักจากรุ่นแรก

2007 iPod Nano 3G - อ้วนเตี้ย

ipodnano3_thumb4


แอเปิลเปลี่ยนดีไซน์ ให้ทั้งอ้วน ทั้งเตี้ย ดูตัน ๆ ขยายหน้าจอเป็น 320x240 pixel รองรับการเล่น วีดีโอนั่นเอง มา 6 สีเช่นกัน และความจุสูงสุด 8 GB.

2008 iPod Nano 4G - ลดน้ำหนัก

ipodnano4_thumb4


แอปเปิลคงรู้สึกตัวว่า ไม่ถูกโฉลกกับความตันๆ อ้วนๆ สักเท่าไหร่ ลดน้ำหนัก ไอพอดนาโน โดยด่วน รุ่นนี้เลยได้ดีไซน์ สูง เพรียง บางกลับมา แต่แลกกับ หน้าจอที่เล็กลง เป็น 240x320 pixel แถมใส่ ความโค้งมนในตัวเครื่องไปด้วย ปรับปรุงหน้าตาการใช้งานใหม่ และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ "Shake to shuffle" เขย่าเพื่อเปลี่ยนเพลง

2009 iPod Nano 5G - จัดเต็มฟีเจอร์

ipodnano53_thumb3

รุ่นนี้แอปเปิลคงดีไซน์เดิมจาก iPod Nano 4G เอาไว้ เพิ่มวัสดุอะลูมิเนียม และขยายหน้าจอให้ ใหญ่ขึ้น และเป็นครั้งแรกที่มี กล้องวีดีโอ ความละเอียด 0.3 MP ที่ด้านหลังเครื่อง มี FM Tuner ไว้ฟังวิทยุ มีลำโพงในตัวเครื่อง และอัดเสียงได้ จัดเต็มครบ 10 สี และความจุสูงสุด 16 GB.

2010 - 2011 iPod Nano 6G - นาฬิกาข้อมือ

ipodnano6_thumb4

แอปเปิลเซอร์ไพร์สด้วยการ หักครึ่งจากรุ่นเดิม ลดขนาดตัวเครื่องให้ลดลง สมชื่อนาโน จากสูงเพรียว เป็นเตี้ยเหลี่ยมแทน มีความสูงตัวเครื่องเพียงเกือบ 40 มิลลิเมตร เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ เพราะเปลี่ยนมาใช้เป็นหน้าจอสัมผัส และตัดกล้องวีดีโอทิ้ง แต่ยังมีลำโพง และฟีเจอร์ เล่นวีดีโอไว้อยู่ ผู้ใช้หลายคนเอาไปใช้เป็นนาฬิกาข้อมือที่สามารถเล่นเพลงได้ ซึ่งทางแอปเปิลเอง ก็สนับสนุนไอเดียนี้ ด้วยการใส่หน้าจอนาฬิกามาหลายแบบ รวมทั้ง ลายมิกกี้เมาส์ด้วย

2012 iPod Nano 7G - รุ่น 7 กับ 7 สี

iPodnano8_thumb4

หลังจากพักการออกรุ่นใหม่ไป 1 ปี แอปเปิลปรับดีไซน์ใหม่ iPod Nano 7G กลับมาทำไอพอดนาโนรุ่นยาว อีกครั้ง หน้าจอสัมผัสที่ใหญ่ขึ้นเป็น 2.5 นิ้ว ความละเอียด 240x432 มาพร้อม accelerometer, รับสัญญาณวิทยุ, บูลทูธ, ช่องเสียบชาร์จแบบให่ Lightning และเล่นวีดีโอได้เช่นเดิม

ถ้าเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแอปเปิลแล้ว ดูท่าทาง iPod Nano จะเป็นสินค้า ที่แอปเปิล ให้อิสระในการสร้างสรร กับการออกแบบ มากที่สุด เพราะการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ ทุกครั้ง แทบไม่เหมือนกับรุ่นเดิมเลย เดี๋ยวสูง เดี๋ยวเตี้ย ต่างจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของแอปเปิลมัก จะคงดีไซน์เดิม และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้ ตัวอย่างเห็นได้ชัดก็คือ iPhone 4 - 4S - 5 ที่ ใครเห็นก็รู้ว่าเป็นไอโฟน (แต่รุ่นไหนก็อีกเรื่องนะ)

ที่มา : CultofMac

by GiZMo · 0

เทียบราคา iPhone 5 ทั่วโลก ซื้อที่ไหน ถูกที่สุด ?

iphone5italy-642x396

iPhone 5 เริ่มจำหน่ายในระยะที่ 2 แล้วกว่าอีก 22 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นไปที่ประเทศแถบยุโรป  ทาง Setteb.it ได้ทำแผงภาพ เปรียบเทียบราคาไอโฟน 5 ทั่วโลกมาให้ดูกัน ซึ่งตามปกติแล้ว ราคา iPhone ในแต่ละประเทศจะไม่เท่ากัน

iPhone 5 ที่ไหนขายแพงที่สุดในโลก (ตอนนี้) คำตอบก็คือ ประเทศอิตาลีนั่นเอง ขายแพงที่สุดสำหรับรุ่น iPhone 5 ความจุ 64 GB. ขายที่ 949 ยูโร หรือ 37,600 บาท และสำหรับ iPhone 5 รุ่น 32 GB. และ 16 GB. แพงสุดอยู่ที่ ประเทศ ฮังการี 841 ยูโร หรืประมาณ 33,300 บาท และ 29,100 บาท (ตามลำดับ)  ส่วนที่ถูกที่สุดตอนนี้ก็คือ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ส่วนราคาประเทศไทย คงต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการ แต่เป็นไปได้ว่า ราคาน่าจะเท่าเดิม หรือแพงขึ้นเล็กน้อย ตามค่าเงิน และค่าวัสดุที่เพิ่มขึ้น

 

คลิกที่รูปเพื่อขยายขนาดเต็ม

หมายเหตุ ; ราคาไอโฟนนี้ เป็นราคาไอโฟนแบบไม่ติดสัญญา และราคาถูกแปลงเป็นเงินยูโร ที่รวมภาษีของแต่ละประเทศแล้ว  ภาษาในแผนผังเป็นภาษาอิตาลี

by GiZMo · 0

Saturday, September 29, 2012

ผลทดสอบพบหน้าจอ LCD ของ iPhone 5 ประหยัดไฟกว่า OLED ของ Samsung Galaxy S III

new-iphone-5-vs-samsung-galaxy-s-iii-comparison

จากข้อมูลก่อนหน้านี้ ที่ทาง Display Mate ได้ทำการทดสอบประเมินผลประสิทธิภาพหน้าจอiPhone 5 โดยเปรียบเทียบกับ iPhone 4 และ Samsung Galaxy S III ผลโดยรวม iPhone 5 ได้คะแนนระดับ A คราวนี้เรามาเจาะดูในส่วนของการประหยัดพลังงาน ระหว่างหน้าจอ IPS LCD ที่ใช้ใน iPhone 5 และ OLED ที่ใช้ใน Samsung Galaxy S III กันบ้างดีกว่า

อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็การใช้พลังงานของหน้าจอ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีกว่า Samsung ใช้หน้าจอ Super AMOLED ในผลิตภัณฑ์ของตน และชูจุเด่นคือเรื่องประหยัดพลังงาน  แต่เมื่อทดสอบแล้ว กลับพบว่า หน้าจอ IPS LCD ของ iPhone ทั้งสองรุ่นประหยัด พลังงานมากกว่า เมื่อทดสอบด้วยพื้นหน้าจอเท่ากัน (ทาง Display Mate จำกัดการแสดงผลให้เท่ากัน) และมีความสว่างเท่ากัน ซึ่งพบว่า หน้าจอ AMOLED นั้นในสภาวะแสงทีเท่ากันแล้วนั้นต้อง ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่มากกว่า หน้าจอ IPS LCD ซะอีก หน้าจอที่ประหยัดพลังงานที่สุดคือ iPhone 4 

www.displaymate.com 2012-9-26 00

จุดที่สองที่น่าสนใจก็คือ การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ของหน้าจอการทดสอบนี้ ทำโดยเปิดความสว่างสูงสุด และเข้า Air Plane mode และไม่ได้เปิดแอพพลิเคชันอื่น ๆ อีกทั้งปิด Auto Brightness ด้วย ผลที่ได้ก็คือ iPhone 5 สามารถใช้งานได้ 6.6 ชั่วโมง น้อยกว่า iPhone 4 ที่สามารถใช้งานได้นาน 7.8 ชั่วโมง ทั้งนี้เนื่องมาจาก หน้าจอที่ยาวขึ้น และ color gamut ที่ใหญ่ขึ้นด้วย แต่ iPhone 5 ก็ยังสามารถใช้งานได้นานกว่า Galaxy S III ที่ใช้งานได้นานเพียง 5.6 ชั่วโมง

www.displaymate.com 2012-9-2631

สรุปแล้ว สำหรับ iPhone 5 ยังคงพัฒนาออกมาได้ดี และมีปรับแต่งเพื่อประหยัดพลังงาน ในทุก  ๆ ด้าน

 

ที่มา : Display Mate

Saturday, September 29, 2012 by GiZMo · 0

รวมชุดแอพที่รองรับ iPhone 5 และ iOS 6 แล้ว อย่าง Line, Facebook, Foursquare, Dolphin

fromtheappstore_hero_2x

หลังจากที่แอปเปิล ปล่อย iOS 6 และเริ่มวางจำหน่าย iPhone 5 มาได้สัปดาห์กว่า ๆ แล้ว เหล่าผู้พัฒนาแอพพลิเคชัน และเกมต่างๆ ก็ทยอยอัพเดตแอพพลิเคชันของตนเอง ให้รองรับ iPhone 5 และ iOS 6 กันแล้ว เรามาดูกันว่ามีแอพพลิเคชันอะไรบ้าง ที่ออกมารองรับ iPhone 5 และ iOS 6 แล้ว

Line V. 3.1.2

 

line-iphone5

ทาง Naver ผู้พัฒนาก็ออกอัพเดตสำหรับ iPhone 5 และ iOS 6 แล้วเช่นกัน  นอกจากนั้นยัง
- เพิ่มระบบการตรวจสอบผู้ใช้ตัวใหม่ เพื่อรองรับการ restore / backupจาก iTunes / iCloud เมื่อตอนเปลี่ยนเครื่องเก่ามายัง iPhone 5
- แก้บักที่ให้ผู้ใส่ Apple ID / Password ซ้ำหลายรอบ
- แก้บักเมื่อใช้ Timeline แล้วแอพเด้ง สำหรับผู้ใช้บางคน
- เพิ่มฟีเจอร์ ให้ผู้ใช้แปะ สติ๊กเกอร์ไปยัง Home หรือ Group board ได้แล้ว
- What's up เก่าๆ  สามารถเข้าไปอ่านได้แล้ว
- เพิ่มการตรวจสอบ เมื่อทำการเปลี่ยนอีเมลที่ลงทะเบียนไว้
- บริการเพื่อนได้งานขึ้น  โดยเพิ่ม Favorite, hide
- เพิ่มฟีเจอร์ ส่งข้อมูลเพื่อน ไปให้คนอื่น
- เพิ่มเมนู แอพ Line Brush เข้าไปในห้องแชท

 

Foursquare  v. 5.3

search-options1

นอกจากออกมารองรับหน้าจอยาวของ iPhone 5 และ iOS 6 แล้ว foursquare ยังเพิ่ม ฟิเจอร์ใหม่เข้ามาด้วย รวมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม

มีอะไรใหม่ ?
✭ Instantly see friends and top suggestions nearby
✭ Search for a specific place, like "Joe's Diner"
✭ Search for whatever you're craving, like "Mexican" or "nachos"
✭ Try our new search categories! See only places you've saved to your lists, places you haven't been to, places you have been to, or places friends have been.
✭ As always, get directions, menus, hours, photos, tips and more.

Doplhin Browser v. 6.1

93483

เว็บบราวเซอร์น่าใจอีกตัวสำหรับ iOS ที่ทำให้การท่องเว็บของเรา คล้ายกับการ ใช้งานแอพ Flipboard นอกจากนั้นเรายังสามารถ ตั้งคำสั่งการลากนิ้ว (gesture) ได้เองอีกด้วย ได้ออกอัพเดตให้กับ iPhone 5 แล้ว และมีการปรับปรุงใหม่ดังนี้

มีอะไรใหม่ ?
● Tab: Back by popular demand now we have the option to access tabs on the top or right sidebar.
● Tab sync: Sync open tabs across devices and take that article on the go!
● History sync: Sync your browsing history and make sure you never forget that "one" website on every device
● Auto fullscreen: Option to turn on/off auto fullscreen in settings
● iPhone 5: Improved display for iPhone 5 compatibility
● Tabs: Sleeker switching between tabs
● Search box: Quicker way to search on the home page.
● Improved zoom on iOS 4.x devices
● Various stability and performance improvements

 


Facebook Messenger v. 2.0

 

mzl.ducnkspk.320x480-75

มีการปรับหน้าตาดีไซน์การใช้งานเล็กน้อย และรองรับ iPhone 5

มีอะไรใหม่ ?

- Swipe left anywhere in the app to quickly see who's available and send a message
- Add friends you message most to the top of your Favorites
- New design for conversations
- Improved speed and reliability
- Support for iOS 6 and iPhone 5
- Bug fixes

 

Camera +

mzl.mtemzzte.320x480-75

นอกจากออกอัพเดตสำหรับ iPhone 5 และ iOS 6 แล้ว Camera + ยังออก Camera + for iPad ออกมา
ขายแยกต่างหากอีกด้วย

มีอะไรใหม่ ?

★ iPhone 5 & iOS 6 support
We’re calling this the biggest, fastest Camera+ ever. Take advantage of the taller screen of the iPhone 5 to see more photos in your lightbox and enjoy a larger editing preview area when you’re working with your photos. And with the speedy new processor in the iPhone 5 your photos will be edited and shared before you’ve had a chance to shoot them.

★ NEW iCloud sync…
We’ve been beavering away on Camera+ for iPad, that’s right iPad, for the better part of two years. The last year of which was adding iCloud sync. Now you can automatically sync your Lightbox photos between all of your devices!

As you take photos on your iPhone, they will automatically pop-up on your iPad, so you can take advantage of the larger screen and advanced editing features of Camera+ for iPad.
★ Facebook sharing with single sign-on
We’re rolling out Facebook single sign-on support for new users. So if you've got the Facebook app installed, you won't need to enter your Facebook username and password in Camera+. If you're an existing Camera+ user with a Facebook account setup, you can't use single sign-on just yet because of a little something that Facebook need to fix (we're sure they're on it).

Gmail V.12.1415

Gmail-for-iOS-Updated-With-iPhone-5-Support

ออกอัพเดตมาเพื่อ iPhone 5 / iOS 6 โดยเฉพาะ

Chrome V. 21.0.1180.82

mzl.tejnxsae.320x480-75

อัพเดตเพื่อ iPhone 5 และ iOS 6 และปรับปรุงความเสถียร และความปลอดภัย

by GiZMo · 0

The Voice Thailand : แอพสำหรับแฟนเดอะวอยซ์ ตัวจริง เสียงจริง *เฉพาะลูกค้าทรูเท่านั้น [Thai app review]

Photo 29-9-2012, 12 46 58

ทุกวันอาทิตย์ช่วงเย็น ๆ หลายคนอาจจะอยู่หน้าจอทีวี เพราะรอชม รายการประกวดร้องเพลงที่กำลัง ฮิตอยู่ในขณะนี้อย่าง The Voice ที่มีกรรมการอย่าง โจอี้ บอย, สแตมป์, ก้อง สหรัฐ และเจนนิเฟอร์ คิ้ม ที่ช่วยสร้างความบันเทิงให้กับรายการ สำหรับแฟนรายการเดอะวอยซ์ ตอนนี้ทาง กลุ่มทรู ที่เป็นผู้ซื้อ ลิขสิทธิ์เดอะวอยซ์ไทยแลน ก็ได้พัฒนาแอพพลิเคชัน เอาใจแฟน ๆ รายการออกมาเรียบร้อยแล้ว

The Voice Thailand รายการประกวดร้องเพลงที่โด่งดังเป็นปรากฏการณ์ระดับนานาชาติ ออกอากาศแล้วในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมีต้นกำเนิดจากประเทศฮอลแลนด์ คิดค้นโดย จอห์น เดอ โมล เจ้าพ่อเรียลลิตี้โชว์ ผู้สร้างสรรค์รายการยอดฮิต อาทิเช่น บิ๊กบราเดอร์ The Voice เป็นการประกวดเพื่อค้นหาศิลปินนักร้องหน้าใหม่ที่ไม่เหมือนใคร เพราะพิจารณาจากสิ่งสาคัญที่สุดของการร้องเพลง นั่นคือ "เสียง" เท่านั้น โดยมีศิลปินตัวจริงในวงการเพลง ได้แก่ เจนนิเฟอร์ คิ้ม, ก้อง สหรัฐ สังคปรีชา, โจอี้ บอย และ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาเป็นโค้ช คอยคัดเลือกผู้เข้าแข่งขันเข้าสู่ทีมของพวกเขา เพื่อคอยให้คำาปรึกษาและพัฒนาทักษะทางด้านการร้องเพลง เพื่อเปลี่ยนผู้เข้าแข่งขันจากนักร้องเสียงดี สู่การเป็นศิลปินตัวจริงประดับวงการรูปแบบที่สดใหม่ของรายการ ประกอบด้วยการแข่งขัน 3 รอบ: Blind Audition, Battle Show และ Live Show

Photo 29-9-2555, 12 45 06

ก่อนอื่นต้องบอกกันล่วงกันก่อนเลยว่า แอพ The Voice TH นี้ถูก จำกัดเฉพาะผู้ใช้เครือข่ายของ กลุ่มทรูอย่าง TrueMove และ TrueMove H เท่านั้น ดังนั้นใครไม่ได้ใช้ของทรู ก็จะเข้าแอพนี้ไม่ได้ อันนี้เป็นข้อจำกัดที่ค่อนข้าง  จะน่าหงุดหงิดทีเดียว เพราะรายการ The Voice เองก็ออกอากาศทางฟรีทีวี ซึ่งมีคนดูหลายกลุ่ม การกำจัดเพราะลูกค้าทรู แทนที่จะช่วยโปรโมทรายการ แต่กลายเป็นจำกัดกลุ่มไปแทน จริงๆ  แล้ว ในความเห็นส่วนตัว น่าจะเปิดให้ได้ทุกเครือข่าย เพียงแต่อาจจะมี Exclusive เฉพาะกลุ่มลูกค้าทรู ในบางฟีเจอร์ น่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่านี้

mzl.pkfnhcie.320x480-75mzl.qvxgextx.320x480-75

สำหรับแอพ The Voice TH เหมือนย่อข้อมูลจากเว็บ TheVoiceThailand.com มาให้เราได้ ใช้กัน โดยมีไฮไลต์คลิปของรายการที่ออกอากาศไปแล้ว รวมทั้งคลิปต่างๆ  ของผู้เข้าแข่งขัน มีช่วงรายการ V Reporter ที่เป็นช่องที่ติดตามข่าวสาร และเบื้องหลังของรายการนี้โดยเฉพาะ และเรา สามารถเช็คได้ว่า ทีมของแต่ละโค้ช มีใครบ้างแล้วตอนนี้ รวมทั้งทวีตข้อความ และ ร่วมแสดงความคิดเห็นได้อีกด้วย

 

itunes.apple.com 2012-9-29 114

The Voice TH

  • Free

  • Category: Entertainment
  • Updated: 17 September 2012
  • Version: 1.1
  • Size: 12.8 MB
  • Language: English
  • Developer: True Digital Content and Media Company Limited
  • © True Digital Content and Media Company Limited

Rated 4+

Requirements: Compatible with iPhone 3GS, iPhone 4, iPhone 4S, iPhone 5, iPod touch (3rd generation), iPod touch (4th generation), iPod touch (5th generation) and iPad. Requires iOS 4.3 or later.

by GiZMo · 0

ทดสอบความอึด iPhone 5 อีกรอบ ราดกาแฟร้อน, ขยำขยี้ด้วยลูกกุญแจ, ดิ่งลงบ่อปลาทอง 15 วินาที จะรอดไหม ?

Screen-Shot-2012-09-28-at-16.02.10

ทาง Android Authority ที่ทำการพิสูจน์ Drop Test เปรีบเทียบระหว่าง iPhone 5 กับ Galaxy S III ที๋ฮ่องกงกันไปก่อนหน้านี้ ผลทดสอบก็คือ iPhone 5 แค่มีรอยแต่ยังใช้งานได้ดี ทาง Android Authority เลยนำมารีไซเคิล มาทรมาน iPhone 5 ที่รอดตายมาได้เพิ่มอีกครั้ง ด้วยการทดสอบ เกี่ยวโดนของเหลว อย่างกาแฟร้อนๆ  ราดใส่จัง ๆ , เอาไปใส่ถุงที่มีแต่ของที่ไอโฟนเป็นรอย อย่าง ลูกกุญแจ และสุดท้ายทรมารสุด ๆ คือ iPhone แช่น้ำนาน 15 วินาที

ผลทดสอบ iPhone 5 ผ่านการทดสอบได้ดีเลยทีเดียว เรียกว่าทดสอบความอึดที่ผ่าน ๆ มา นั้น ทนทานการใช้งานขึ้นมาก รวมทั้งการทดสอบนี้ด้วย เริ่มจากการทดสอบแรก ราดกาแฟใส่ iPhone 5 รอดมาได้ อย่างสบายๆ  ทุกอย่างยังใช้งานได้ดี

ผลการทดสอบที่ 2 เอาไปใส่เขย่าย ขยี้กับ ลูกกุญแจ ผลออก็มีแค่รอยบ้าง เล็ก ๆ น้อย  ไม่ได้ถึงกับน่าตกใจอะไร ผ่านการทดสอบอีกนั่นเอง

มาถึงการทดสอบสุดท้าย ที่โหดที่สุด ไอโฟนต้องกลั้นหายใจนานถึง 15 วินาทีเลยทีเดียว หลังจาก นำขึ้นมาบนน้ำ หน้าจอยังสามารถทำงานได้ แต่เริ่มไม่ตอบสนอง บ้างแล้ว แต่ฟังก์ชันอื่นสามารถทำงาน ตอบสนองได้อยู่ แต่เมื่อ นำไปฝังข้าวสาร เพื่อให้ iPhone 5 แห้งขึ้น ผลกับเป็นว่า iPhone 5 ไม่รอด ดับสนิทเปิดเครื่องไม่ได้ ดังนั้นห่างไกลจากน้ำดีที่สุด

 

by GiZMo · 2

Tim Cook ร่อนจดหมายเปิดผนึก ออกมาขอโทษลูกค้า ในเรื่องของ Apple Map แล้ว

mapsletter2

ใครเข้าเว็บ Apple.com แล้ว ถ้าสังเกตที่ด้านล่าง จะเห็นมีเมนูเกี่ยวกับ "จดหมายถึงลูกค้าเรื่องแผนที่" ที่ทาง Apple CEO อย่าง Tim Cook เขียนขึ้นเพื่อขออภัยลูกค้า ที่ไม่สามารถนำประสบการณ์ที่ดี ให้กับ iOS 6 Map ใหม่นี้ได้ 

Tim Cook เน้นย้ำ สิ่งเดิมที่ทาง ตัวแทนแอปเปิลได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว  ว่า ยิ่งใช้ไปเรื่อย และมีผู้ใช้มาขึ้นเรื่อย ๆ ตัวแผนที่จะดีขึ้นเรื่อย ๆ ในระหว่างนี้ Tim Cook แนะนำให้ผู้ใช้ หันไปใช้แอพพลิเคชันแผนที่อื่น ๆ ก่อน โดยกล่าว ถึงแอพแผนที่ ที่มีอยู่บน App Store เช่น Bing, MapQuest และ Waze และ ทางเลือกอื่นอย่าง Google Maps หรือ Nokia Maps โดยให้ใช้ผ่าน web-app เข้าจาก Safari นอกจากนั้นยัง แนะนำวิธีการ ติดตั้ง Map แบบ web-app ลง Home Screen ด้วย ซึ่งค่อนข้างเป็นเรื่องไม่ธรรมดาทีเดียว ที่ Tim Cook แนะนำ และเอ่ยชื่อแอพ แผนที่ คู่แข่ง

Tim Cook ยังกล่าวเสริมในส่วนของการเปลี่ยนจาก Google Maps มาใช้ iOS Maps เพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้เช่น Turn-by-Turn Navigation, voice integration, Flyover และแผนที่แบบ vector-based

จดหมายเปิดผนึกฉบับเต็ม

    To our customers,

    At Apple, we strive to make world-class products that deliver the best experience possible to our customers. With the launch of our new Maps last week, we fell short on this commitment. We are extremely sorry for the frustration this has caused our customers and we are doing everything we can to make Maps better.

    We launched Maps initially with the first version of iOS. As time progressed, we wanted to provide our customers with even better Maps including features such as turn-by-turn directions, voice integration, Flyover and vector-based maps. In order to do this, we had to create a new version of Maps from the ground up.

    There are already more than 100 million iOS devices using the new Apple Maps, with more and more joining us every day. In just over a week, iOS users with the new Maps have already searched for nearly half a billion locations. The more our customers use our Maps the better it will get and we greatly appreciate all of the feedback we have received from you.

    While we’re improving Maps, you can try alternatives by downloading map apps from the App Store like Bing, MapQuest and Waze, or use Google or Nokia maps by going to their websites and creating an icon on your home screen to their web app.

    Everything we do at Apple is aimed at making our products the best in the world. We know that you expect that from us, and we will keep working non-stop until Maps lives up to the same incredibly high standard.

    Tim Cook
    Apple’s CEO

 

ที่มา : Apple.com

by GiZMo · 0

สุดหรู iPhone 5 ทองคำ กับ กรอบ iPhone 5 ประดับอัญมณี

399126_474439802590628_2082769925_n

เรามาดูอะไรที่มันเป็นที่สุดในเรื่องของความหรูหรา อลังการ และแสนแพง เพื่อมาประดับ กับ iPhone สุดรักกัน กับ ไอโฟนเคลืองทองคำ 24 K และกรอบไอโฟนประดับอัญมณี  ทางห้างทองและจิวเวลรี่ชื่อดังจากประเทศอังกฤษ Gold & Co. UK ที่เคยประสบความสำเร็จ กับการเคลือบทองคำให้กับ iPhone 4S และ The New iPad มาแล้ว ล่าสุด ก็ได้ เผย iPhone 5 รุ่นทองคำ 24 K เพื่อเพิ่มความหรูหรา เลอค่า ให้สุด ๆ กันไปเลย สำหรับ iPhone 5 ทองคำ นั้นมีสองแบบให้เลือก โดยเป็น ทองคำ ราคา $4700 หรือ ประมาณ 150,000 บาท และทองคำสีชมพู (rose gold) $5,100 หรือประมาณ 160,000 บาท  โดยจะวางจำหน่ายครั้งแรก ที่ร้าน คอลเล็คเตอร์สพาเลซ ในห้าง สรรพสินค้าที่ ดูไบ ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ใครสนใจบินไปซื้อที่ดูไบกันได้เลย หรือ ดูข้อมูลที่ เว็บ Gold & Co.

267380_474439769257298_1005779232_n

375934_474439469257328_1314648956_n

301173_474439539257321_1518855356_n

มี iPhone ทองคำแล้ว จะขาดกรอบใส่ ไอโฟน กันรอยไปได้อย่างไร แน่นอน มีเงินซื้อ ไอโฟนทองคำแล้ว จะไม่มีเงินซื้อ กรอบไอโฟนประดับอัญมณี ได้อย่างไร ?

bejewled-iphone-5-case-1

bejewled-iphone-5-case-close

กรอบไอโฟนนี้ สร้างสรรค์ โดย Natural Sapphire Company ที่ใช้วัสดุ ราคาแพงอย่าง ทองคำขาว 18 Kt, ทับทิมถึง 38 เม็ด และใช้ 2,830 แซฟไพร์ สนนราคาก็คือ $100,000 หรือประมาณ 3,100,000 บาท นั่นเอง  แต่ถ้าไม่พอใจ อยากเปลี่ยนมาใช้ เป็น แพลตินั่ม หรืออัญมณีอื่น ๆ ก็สามารถเลือกได้ (ถ้ามีเงินพอ) โดยอัญมณีนั้น มาจากศรีลังการ, มาดากาสการ์ และประเทศไทย ตัวกรอบผลิตในสหรัฐอเมริกา  ใครมีเงินเหลือลองสั่งซื้อกันมาอวดให้ชมกันบ้างนะ

ที่มา : Redmondpie

by GiZMo · 0

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
All Rights Reserved iPhoneAppTube | Blogger Template by Bloggermint